fieldjournalid
![]() | บทความวิจัย (SME) 2019 |
1. | การศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในการซื้อสินค้าชนิดเดียวกันในราคาที่สูงกว่าบนช่องทางแบบออนไลน์ [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : วุฒิ สุขเจริญ, ธาดา ศรีเสน | ||
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อสินค้าออนไลน์ ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในการซื้อสินค้าออนไลน์จากผู้จำหน่ายที่จำหน่ายราคาสูงกว่า ผู้จำหน่ายอื่น และเพื่อศึกษาระดับของอิทธิพลของแต่ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์จากผู้จำหน่ายในราคาสูง โดยสำรวจจากผู้ที่เคยซื้อสินค้า และบริการจากช่องทางแบบออนไลน์ที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 300 คน วิธีเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสร้างแบบสอบถามเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ผลของการวิจัยมีดังต่อไปนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชย มีอายุระหว่าง 22-29 ปี ระดับรายได้ต่อเดือน 15,001-25,000 บาท พฤติกรรมในการซื้อสินค้าบนช่องทางแบบออนไลน์พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีความถี่ในการซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์ต่อเดือน 2-4 ครั้งต่อเดือน นิยมเปรียบเทียบราคาจากร้านมากกว่า 4 ร้าน และมีพฤติกรรมไม่ค่อยซื้อสินค้าที่มีราคาสูงกว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าชนิดเดียวกันในราคาที่สูงกว่าบนช่องทางแบบออนไลน์สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ปัจจัยด้านความน่าเชื่อถือของและปัจจัยด้านการให้บริการหลังการขาย
Full Text : Download! |
||
2. | อิทธิพลของการใช้ผู้มีชื่อเสียงในการรีวิวสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางหรืออาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : วุฒิ สุขเจริญ, วิมม์วิภา เตียวิรัตน์ | ||
งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับของปัจจัยของผู้มีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องสำอาง เพื่อศึกษาระกับของปัจจัยของผู้มีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารเสริมและเพื่อเปรียบเทียบปัจจัยของผู้มีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องสำอางและอาหารเสริมและอาหารเสริมจากผู้มีชื่อเสียง รวมทั้งเคยซื้อเครื่องสำอางหรืออาหารเสริมที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 211 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลดังกล่าว สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Paired T-test เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของผู้มีชื่อเสียงที่รีวิวสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและอาหารเสริมที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยกำหนดให้มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิเคราะห์ของงานวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 15-21 ปี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ระหว่าง 10,001-20,000 บาท ซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางหรืออาหารเสริมเฉลี่ย 3-4 ครั้งต่อเดือน โดยอิทธิพลในด้านภาพลักษณ์ของผู้มีชื่อเสียงที่ทำการรีวิวผลิภัณฑ์เครื่องสำอางมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และอิทธิพลในด้านรูปแบบของผู้มีชื่อเสียงที่ทำการรีวิวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
Full Text : Download! |
||
3. | ส่วนประสมทางการตลาดบริการและคุณภาพการบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ ระบบขนส่งพัสดุด่วนภายในประเทศของผู้บริโภคในจังหวัดชลบุรี [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : จิรายุฒ เสมา | ||
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของ
ผู้ใช้บริการระบบขนส่งพัสดุด่วน 2) เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาด
บริการที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการระบบขนส่งพัสดุด่วน และ 3) เพื่อศึกษา
คุณภาพการบริการของระบบขนส่งพัสดุด่วนภายในประเทศที่ส่งผลต่อการ
ตัดสินใจเลือกใช้ขนส่งพัสดุด่วนของผู้บริโภคในจังหวัดชลบุรี การวิจัยครั้งนี้
เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามจำนวน 267 ชุดเป็นเครื่องมือ
ในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ สถิติเชิง
พรรณนาและการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ
ผลการศึกษาพบว่า 1) ผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อยู่
ในช่วงอายุ 20-29 ปี มีระดับการศึกษาอยู่ในระดับชั้นปริญญาตรี ประกอบ
อาชีพพนักงานเอกชน มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่15,000-25,000 บาท และ
ตัดสินใจเลือกใช้บริการระบบขนส่งพัสดุด่วนบริษัท Kerry Express มากที่สุด
2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ลักษณะทางกายภาพ และ
ช่องทางการจัดจำหน่าย มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการระบบพัสดุ
ด่วน 3) คุณภาพการบริการความมัน่ ใจทำให้เชื่อมัน่ และความเป็นรูปธรรม
ในการให้บริการมีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการระบบขนส่งพัสดุด่วนของ
ผู้บริโภคในจังหวัดชลบุรี
Full Text : Download! |
||
4. | ส่วนประสมทางการตลาดและคุณภาพการบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi ของผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : คณาธิป ทับทอง | ||
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ 1. เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi ของผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 2. เพื่อศึกษาปัจจัยด้านคุณภาพการบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi ของผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression) กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ประกอบการที่ใช้บริการระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จานวน 300 ตัวอย่าง
ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi มากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ ด้านช่องทางการจัดจาหน่าย ลาดับถัดมา คือ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ สุดท้าย คือ ด้านการส่งเสริมการตลาด ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi ของผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .052) ปัจจัยด้านคุณภาพการบริการด้านความไว้ใจและความน่าเชื่อถือมีผลต่อการตัดสินใจซื้อระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi มากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ ด้านความเป็นรูปธรรมของการให้บริการ ลาดับถัดมา คือ ด้านการดูแลเอาใจใส่ สุดท้าย คือ ด้านการตอบสนองความต้องการ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อระบบการตลาดผ่าน Wi-Fi ของผู้ประกอบการ ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Full Text : Download! |
||
5. | ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคไม่กดปุ่มข้ามโฆษณาในยูทูป [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : กลอยใจ พร้อมสมุทร | ||
การค้นคว้าอิสระฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะประชากรศาสตร์ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการไม่กดปุ่มข้ามภาพยนตร์โฆษณาประเภททรูวิวอินสตรีม ในยูทูปของผู้ชม และเพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการไม่กดปุ่มข้าม โฆษณาประเภททรูวิวอินสตรีมในยูทูป ของผู้ชม ซึ่งสารวจด้วยการเก็บแบบสอบถามกับประชากรที่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครจานวน 322 คน และวิเคราะห์ข้อมูลตามหลักสถิติด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมานที่ระดับนัยสาคัญทางสถิติ 0.05 ผลการศึกษาพบว่ารายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกันส่งผลต่อพฤติกรรมการไม่กดปุ่มข้ามโฆษณาประเภททรูวิวอินสตรีมในยูทูปแตกต่างกัน โดยประชากรที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 25,001-35,000 บาท มีพฤติกรรมการไม่กดปุ่มข้ามโฆษณาประเภททรูวิวอินสตรีม ในยูทูปมากกว่าประชากรที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 9,001-25,000 บาท ส่วนเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ ไม่ส่งผลต่อพฤติกรรมการไม่กดปุ่มข้ามโฆษณาประเภททรูวิวอินสตรีมในยูทูป นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจัยด้านช่วงเวลา ด้านสินค้า ด้านพรีเซนเตอร์ และด้านเนื้อหาไม่ส่งผลต่อพฤติกรรมการไม่กดปุ่มข้ามภาพยนตร์โฆษณาประเภททรูวิวอินสตรีมในยูทูปของผู้ชม
Full Text : Download! |
||
6. | การพัฒนาระบบการให้บริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ของ บริษัท กรณัฐ ออโต้ เซอร์วิส จำกัด [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : กรณัฐ แสงวัฒน์ | ||
งานวิจัยนี้ศึกษาถึงการพัฒนากระบวนการการให้บริการสาหรับอู่ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ของ บริษัท กรณัฐ ออโต้ เซอร์วิส จากัด โดยใช้การเก็บข้อมูลในลักษณะเชิงคุณภาพ โดยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์พนักงานในแต่ละแผนกของบริษัทและลูกค้าที่ใช้บริการ ซึ่งเก็บข้อมูลจากบุคลากรภายในองค์กรและลูกค้าที่มีประสบการณ์ในการทางานทั้งรูปแบบการทางานแบบเก่าและแบบใหม่โดยผลจากการสัมภาษณ์นั้นพบว่าปัญหาหลักของฝ่ายการเงินนั้นจะเป็นในเรื่องของระยะเวลาการเก็บหนี้จากลูกหนี้ ในแผนกรับรถนั้นคือ การมีรถเข้านอกเวลางาน ในส่วนของแผนกจัดซื้อนั้นจะมีปัญหาเกี่ยวกับเงินทุนที่ไม่เพียงพอ และในส่วนของช่างนั้นจะมีปัญหาเกี่ยวกับความพร้อมและความถูกต้องของอะไหล่ ซึ่งแต่ละปัญหานั้นมีความสอดคล้องกันซึ่งทาให้เกิดความล่าช้าในการทางานและทาให้ขาดประสิทธิภาพในการทางาน ในส่วนของการสัมภาษณ์ลูกค้านั้นปัญหาที่พบคือ การมีที่จอดรถที่ไม่สะดวกสบาย ความหลากหลายของสินค้า (ขายประกัน)
หลังจากการดาเนินงานปรับปรุงแก้ไขแล้วพบว่ากระบวนการทางานนั้นลดลงจากเดิม 7 วันทาการเหลือ 4 วันทาการ โดยใช้การวิเคราะห์จากสภาพรถยนต์ที่มีความเสียหายใกล้เคียงกัน ผู้วิจัยเสนอแนะควรมีการจัดนัดวันเข้าซ่อมที่เป็นระบบมากขึ้นในแผนกรับรถ ในแผนกจัดซื้อนั้นควรมีการใช้โปรแกรม Express เข้ามาเนื่องจากต้องมีการตรวจเช็คสต๊อกสินค้าเป็นประจา ในส่วนของแผนกการเงินนั้นต้องกาหนดวันที่ลูกหนี้จะจ่ายหนี้อย่างแม่นยาโดยติดต่อกับบริษัทประกันโดยตรง ในส่วนของช่างนั้นควรจัดให้มีประชุมกันทุกสัปดาห์และมีการลงทุนซื้อเครื่องมือเพิ่มเข้ามา
Full Text : Download! |
||
7. | การศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขและแมว ในเขตกรุงเทพมหานคร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : เพ็ญนภา ตังจิว | ||
การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสาเร็จรูปสาหรับสุนัขและแมว ในเขตกรุงเทพมหานคร เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจานวน 400 คน โดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Independent T-test, สถิติ One way ANOVA และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 20-29 ปี สถานภาพโสด และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 30,000 บาท นิยมให้อาหารสัตว์เลี้ยงด้วยอาหารสาเร็จรูปแบบเม็ด โดยส่วนใหญ่ซื้อที่ร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Shop) มีค่าใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ 501-1,000 บาท และความถี่ในการซื้อ คือ เดือนละ 1-2 ครั้ง
เมื่อเปรียบเทียบปัจจัยด้านประชากรศาสตร์กับกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสาเร็จรูปสาหรับสุนัขและแมว พบว่า เพศ อายุ สถานภาพ และรายได้ ที่แตกต่างกัน ไม่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อ และผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้ออาหารสาเร็จรูปสาหรับสุนัขและแมว พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ (Product) และปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotion) ที่ระดับนัยสาคัญ 0.05
Full Text : Download! |
||
8. | ส่วนประสมทางการตลาดและคุณค่าตราสินค้าที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดื่มชูกำลังของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : พิชญงค์ การะนัด | ||
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชูกาลังของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อศึกษาปัจจัยคุณค่าตราสินค้าที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชูกาลังของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครโดยสารวจผู้บริโภคจานวน 400 คน ที่บริโภคเครื่องดื่มชูกาลังในเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยแบบสอบถามโดยการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก ใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน การวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ (Multiple Linear Regression)
ผลการวิจัยข้างต้นสามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็น เพศชาย อายุ 20-30 ปี วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี รายได้ 10,001-20,000 บาท ทาอาชีพพนักงานเอกชน และเครื่องดื่มชูกาลังที่บริโภคบ่อยที่สุดคือ M150 ปัจจัยส่วนประสมการตลาดด้านการส่งเสริมทางการตลาดส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชูกาลังของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครมีระดับนัยสาคัญ 0.05 ปัจจัยคุณค่าตราสินค้าด้านความภักดีต่อตราสินค้าและด้านความเชื่อมโยงกับตราสินค้าส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชูกาลังของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครมีระดับนัยสาคัญ 0.05
Full Text : Download! |
||
9. | ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในจังหวัดนนทบุรี [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : พงศ์พุฒิ การะนัด | ||
การทำวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในจังหวัดนนทบุรี 2)เพื่อศึกษาทัศนคติที่ส่งผลต่อการตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในจังหวัดนนทบุรีโดยสำรวจผู้บริโภคจำนวน 400 คน ที่อาศัยในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีด้วยแบบสอบถามโดยการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก ใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์เชิงพหุถดถอย (Multiple Linear Regression) จากผลการวิจัยข้างต้นสามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 30-39 ปี วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี รายได้ มากกว่า 50,000บาท ต่อเดือน มีพฤติกรรมการใช้รถยนต์ส่วนใหญ่ น้อยกว่า 31-50 กิโลเมตรต่อวัน และมีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าประเภทเก๋งซีดานที่มีระยะทางต่อการชาร์จต่อการวิ่ง 301-400 กิโลเมตรต่อครั้งและมีราคาขายในช่วง1.000.000-2,000,000บาท 2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านราคาและการส่งเสริมทางการตลาดส่งผลต่อการตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในจังหวัดนนทบุรี 3) ปัจจัยทัศนคติด้านพฤติกรรมส่งผลต่อการตั้งใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของกลุ่มตัวอย่าง
Full Text : Download! |
||
10. | ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมหลังการซื้อรองเท้ากีฬาของวัยกลางคนขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานคร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : พูนฤทธิ์ วสุพงศ์พิพัฒน์ | ||
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อพฤติกรรมหลังการซื้อรองเท้ากีฬาของวัยกลางคนขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมหลังการซื้อรองเท้ากีฬาของวัยกลางคนขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานคร โดยสำรวจจากผู้บริโภคที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 300 คน ด้วยแบบสอบถามโดยการสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก สถิติที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 40-45 ปี การศึกษาปริญญาตรี ระดับรายได้ต่อเดือน 20,001-30,000 บาท และมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว ผลการทดสอบสมมติฐานที่ 1 พบว่าปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศที่แตกต่างกันมีผลต่อการซื้อรองเท้ากีฬาของวัยกลางคนขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานครไม่แตกต่างกัน ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลด้านอายุ ด้านระดับการศึกษา ด้านอาชีพที่แตกต่างกันมีผลต่อพฤติกรรมหลังการซื้อรองเท้ากีฬาของวัยกลางคนขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานครแตกต่างกัน ผลการทดสอบสมมติฐานที่ 2 พบว่าปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านราคาและช่องทางการจัดจาหน่ายมีผลต่อพฤติกรรมหลังการซื้อรองเท้ากีฬาของวัยกลางคนขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานครที่ระดับนัยสาคัญ 0.05
Full Text : Download! |
||
Center of Academic Resource
Institute of Technology 1771/1, E Building, Fl. 2,
Pattanakarn Rd, Suan Luang, Bangkok, 10250