fieldjournalid
![]() | สารนิพนธ์ (MBI) 2022 |
1. | การศึกษามูลค่าเพิ่มของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมในมุมมองของผู้บริโภค [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : โสฬส อินทรัตน์ | ||
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาคุณลักษณะผลิตภัณฑ์ของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่
เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมในมุมมองของผู้บริโภค 2) เพื่อศึกษามูลค่าเพิ่มของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นพิษ
ต่อสิ่งแวดล้อมในมุมมองของผู้บริโภค 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลของคุณลักษณะผลิตภัณฑ์ต่อมูลค่าเพิ่ม
ของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมในมุมมองของผู้บริโภค กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริโภคที่
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม จำนวน 432 คน ที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล
แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน (SD) และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)
โดยมีผลงานวิจัยดังนี้ 1) คุณลักษณะผลิตภัณฑ์ของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ในมุมมองของผู้บริโภค ด้านตราสินค้า ด้านระดับคุณภาพ ด้านบรรจุภัณฑ์ ด้านปัจจัยการออกแบบ
ด้านลักษณะหรือรูปลักษณ์ ผู้บริโภคให้ความสำคัญอยู่ในระดับมาก 2) มูลค่าเพิ่มของบรรจุภัณฑ์
ที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมในมุมมองของผู้บริโภค พบว่า คุณค่าด้านประโยชน์ใช้สอย ด้านความ
ต้องการ คุณค่าด้านประสบการณ์ และคุณค่าด้านความคุ้มค่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญอยู่ในระดับ
มาก 3) คุณลักษณะผลิตภัณฑ์ของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นเป็นต่อสิ่งแวดล้อมด้านตราสินค้า ด้านระดับ
คุณภาพ ด้านการออกแบบ และด้านลักษณะหรือรูปลักษณ์ มีอิทธิพลต่อตัวแปรตาม (มูลค่าเพิ่ม
ของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01
Full Text : Download! |
||
2. | ปัจจัยส่วนประสมการตลาดบริการที่มีต่อการตัดสินใจใช้บริการจัดส่งอาหารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ญาณิศา อยู่ทองคำ | ||
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการจัดส่งอาหารในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยศึกษาจากลุ่มตัวอย่างจำนวน 401 ตัวอย่าง และคัดเลือกเฉพาะผู้ที่เคยใช้บริการจัดส่งอาหาร โดยใช้สถิติวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า ส่วนประสมทางการตลาดบริการด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการจัดส่งอาหารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05 ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้บริการทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ การเพิ่มช่องทางในการให้บริการจัดส่งอาหารให้มีความหลากหลายมากขึ้น ช่องทางในการสั่งซื้อแต่ละช่องทางใช้งานการสั่งซื้อได้สะดวก ไม่ซับซ้อนจนเกินไป สามารถกำหนดระยะเวลาจัดส่งได้อย่างถูกต้อง พื้นที่การจัดส่งมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึง และใช้บริการจัดส่งอาหารได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคให้ความสนใจต่อโปรโมชั่นที่มีความหลากหลาย มีการแนะนำร้านอาหารใหม่ๆ แนะนำโปรโมชั่น เช่น ส่วนลดค่าจัดส่งในทุกๆ เดือน ส่วนลดสำหรับผู้พิการ เป็นต้น มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้สื่อโซเชี่ยลมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคใช้บริการจัดส่งอาหารได้ง่ายขึ้น
Full Text : Download! |
||
3. | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาในหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : จาริณี โหยหวล | ||
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกมหาวิทยาลัย
เพื่อศึกษาในหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต โดยแบ่งเป็น 5 ปัจจัยคือ ปัจจัยด้านค่าใช้จ่าย
ปัจจัยด้านหลักสูตร ปัจจัยด้านสถาบันการศึกษา ปัจจัยด้านครอบครัว และปัจจัยด้านสังคม กลุ่ม
ตัวอย่าง คือ บุคคลทั่วไปที่สนใจศึกษาในหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จำนวน 244 คน เก็บ
รวบรวมข้อมูลแบบสอบถามออนไลน์ผ่าน Google From สถิติที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการ
วิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)
โดยมีผลการวิจัยดังนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง
ร้อยละ 51.6 เพศชาย ร้อยละ 48.4 ด้านอายุ ส่วนใหญ่ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นผู้ที่มีอายุ 20-25
ปี ร้อยละ 29.9 อายุ 26-30 ปี ร้อยละ 29.5 อายุ 31-35 ปี ร้อยละ 20.1 อายุ 41 ปีขึ้นไป ร้อยละ
12.3 และน้อยที่สุดเป็นอายุ 36-40 ปี ร้อยละ 8.2 ด้านรายได้ต่อเดือน ผู้ตอบแบบสอบถามส่วน
ใหญ่มีรายได้ต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 32.0 รายได้ 10,000-20,000 บาทร้อยละ
29.1 รายได้ 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 17.6 รายได้ 40,001 บาทขึ้นไป ร้อยละ 13.5 และ
น้อยที่สุดเป็นผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนระหว่าง 0-9,999 บาท ร้อยละ 7.8 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการ
เลือกมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาในหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อ
พิจารณารายด้าน พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสถาบันการศึกษา ด้าน
หลักสูตร ด้านสังคม ด้านค่าใช้จ่าย และด้านครอบครัว อยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยที่มีอิทธิพล
ต่อการเลือกมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาในหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณ
Full Text : Download! |
||
4. | ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่า ในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : จุมพล ชัยสงคราม | ||
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ส่วนประสมทางการตลาดของธุรกิจบริการ การตลาดเชิงประสบการณ์ และการสร้างคุณค่าร่วม ที่มีต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่า เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 399 ตัวอย่าง และคัดเลือกเฉพาะผู้ที่เคยใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่า เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามผ่านช่องทางออนไลน์ผ่าน Google Form สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และสมการถดถอยแบบพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน
ผลการศึกษาพบว่า ส่วนประสมทางการตลาดของธุรกิจบริการด้านผลิตภัณฑ์ (Product) และ ด้านบุคลากร (People) มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่าที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสามารถพยากรณ์การตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่า ได้ร้อยละ 90.70 การตลาดเชิงประสบการณ์ด้านประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส (Sense) ด้านประสบการณ์ทางความรู้สึก (Feel) ด้านประสบการณ์ทางการกระทำ (Act) และ ด้านประสบการณ์ทางการเชื่อมโยง (Relate) มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่าที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสามารถพยากรณ์การตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่า ได้ร้อยละ 59.20 การสร้างคุณค่าร่วม ซึ่งประกอบด้วย ด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร (Technology and Communication) และ ด้านความสามารถในการผลิตร่วมของลูกค้า (Co-Production of Customer) มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่าที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งสามารถพยากรณ์การตัดสินใจเลือกใช้บริการที่พักรูปแบบพูลวิลล่า ได้ร้อยละ 77.30 ซึ่งสนับสนุน
Full Text : Download! |
||
5. | ส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักผ่าน ช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชุติกาญจน์ คล่องกระแสสินธุ์ | ||
ในงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยส่วนประสม
ทางการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักของผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ในเขต
กรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์
อาหารเสริมลดน้ำหนักผ่านช่องทางออนไลน์กับการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก
ผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร 3) เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาด
ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคใน
เขตกรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามจำนวน 200 ชุด โดยกำหนดประชากรเป็น
ประชากรในเขตกรุงเทพมหานครประชากรที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก
ที่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือ
ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยเลือกใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) และสถิติเชิง
อนุมาน (Inferential Statistics) โดยใช้สถิติ T-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
(One way ANOVA) และใช้การวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)
เพื่อวิเคราะห์และอธิบายระดับอิทธิพลของส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร
ผลการวิจัย พบว่า 1) กลุ่มผู้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักผ่านช่องทางออนไลน์
ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ความสำคัญกับปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์เป็น
อันดับแรก รองลงมา คือ ด้านช่องทางจัดจำหน่าย ด้านราคา และด้านการส่งเสริมทางการตลาด
ตามลำดับ 2) ปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อไม่แตกต่างกัน 3)
Full Text : Download! |
||
6. | อิทธิพลของสื่อดิจิทัลทางการตลาด การรับรู้คุณค่า และความชื่นชอบในตราสินค้า ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ณัฐณิชา โรจนศิรินทร์ | ||
การวิจัยเรื่องอิทธิพลของสื่อดิจิทัลทางการตลาด การรับรู้คุณค่า และความชื่นชอบในตรา
สินค้าที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อ
ศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตของนักเรียนในระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย 2)
สื่อดิจิทัลทางการตลาด การรับรู้คุณค่า และความชื่นชอบในตราสินค้าที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือก
ศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และ 3) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลเชิงสาเหตุ
อิทธิพลของสื่อดิจิทัลทางการตลาด การรับรู้คุณค่า และความชื่นชอบในตราสินค้าที่ส่งผลต่อการ
ตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน การศึกษาครัง้ นี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้
วิธีการสารวจจากแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
หรือเทียบเท่า วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน
ด้วยการวิเคราะห์ตัวแบบสมการโครงสร้างด้วย Smart PLS 4.0
ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงศึกษาอยู่ที่
สถาบันการศึกษารัฐบาล แผนการเรียนสายสามัญ เกรดเฉลี่ยสะสม 3.01 - 4.00 และสนใจศึกษาต่อ
ระดับอุดมศึกษาที่สถาบันการศึกษาเอกชน ด้านพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต พบว่าผู้ตอบ
แบบสอบถามส่วนใหญ่ใช้อินเทอร์เน็ตช่วง 18.01 - 24.00 น. จำนวน 4 - 6 ชั่วโมงต่อวัน ผ่าน
อุปกรณ์สมาร์ทโฟน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ และส่วนใหญ่เปิดรับข่าวสาร
ด้านบันเทิงมากที่สุด และด้านการทดสอบสมมติฐานจากสมการเชิงโครงสร้าง ผลการวิเคราะห์พบว่า
สื่อดิจิทัลทางการตลาดมีอิทธิพลเชิงบวกต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
สื่อดิจิทัลทางการตลาดมีอิทธิพลเชิงบวกต่อการรับรู้คุณค่าความเป็นส
Full Text : Download! |
||
7. | ปัจจัยที่ส่งผลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ในจังหวัดสมุทรปราการ [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : พงศ์พล ไพโรจน์กิจตระกูล | ||
งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการทำงาน ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กร การรับรู้โอกาสในการได้งานใหม่ และความตั้งใจลาออก อีกทั้งเพื่อศึกษาอิทธิพลความพึงพอใจในการทำงาน ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กร และการรับรู้โอกาสในการได้งานใหม่ที่ส่งผลต่อความตั้งใจลาออกของพนักงานบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 517 คน เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และสมการถดถอยพหุคูณประมวลผลข้อมูล ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุน้อยกว่า 36 ปี สถานภาพโสด ทำงานในตำแหน่งพนักงานทั่วไป มีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 18,000 บาท ระดับการศึกษาน้อยกว่าปริญญาตรี โดยอายุงานน้อยกว่า 4 ปี และมีประสบการณ์ในการเปลี่ยนงานมาแล้ว 1-2 ครั้ง ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ความพึงพอใจในการทำงาน ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กร การรับรู้โอกาสในการได้งานใหม่ และความตั้งใจลาออกมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อีกทั้งความพึงพอใจในการทำงาน ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กร และการรับรู้โอกาสในการได้งานใหม่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจลาออกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งสนับสนุนสมมติฐานการวิจัย มีการอภิปรายผลการวิจัยพร้อมทั้งข้อเสนอแนะในการวิจัย เพื่อนาไปกำหนดนโยบายในการสร้างความพึงพอใจในการทำงาน ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กร และการรับรู้โอกาสในการได้งานใหม่
Full Text : Download! |
||
Center of Academic Resource
Institute of Technology 1771/1, E Building, Fl. 2,
Pattanakarn Rd, Suan Luang, Bangkok, 10250