fieldjournalid
![]() | สารนิพนธ์ (MIM) 2016 |
1. | การลดของเสียในกระบวนการผลิตตลับ U ด้วย QC 7 Tools [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : อนุรักษ์ ผู้ฐานิสสร | ||
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดของเสียประเภทจุดดำฝังเนื้อพลาสติก จากกระบวนการ
ผลิตตลับ U ของเครื่องฉีดรหัส 3U ที่กำลังประสบปัญหาด้านคุณภาพ ด้วยการประยุกต์ใช้ QC
7 Tools พร้อมพิจารณาตามเทคนิค 4 M ได้แก่ Manpower Machine Materials และ Method
ในงานวิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลการผลิตด้วยแผ่นตรวจสอบ (Check Sheet) เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 ถึง เดือนมีนาคม 2559 มาแจกแจงปัญหาและความถี่ด้วยผังพาเรโต้
(Pareto Diagram) เพื่อแบ่งแยกความสำคัญปัญหาที่ควรเร่งแก้ไข พร้อมนำเทคนิค 4 M มา
วิเคราะห์ด้วยผังก้างปลา (Fishbone Diagram) เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด
จุดดำฝังเนื้อพลาสติก และเตรียมมาตรการโต้ตอบปัญหา
ผลการดำเนินงานหลังการปรับปรุงตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 ถึงเดือนมิถุนายน 2559
เป็นระยะเวลา 3 เดือน สามารถลดของเสียประเภทจุดดำฝังเนื้อพลาสติกลงจากเดิม 19,483 ชิ้น
ลดลงเหลือ 10,771 ชิ้น ลดลงร้อยละ 44.72 และในด้านเศรษฐกิจ สามารถลดค่าเสียโอกาสคิด
เป็นมูลค่า 107,710 บาทต่อปี
Full Text : Download! |
||
2. | ปัจจัยความไว้วางใจและแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 9 ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) ของกลุ่มเจเนอเรชั่น ซี [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : จรูญ อรุณฤทธิ์สิทธิ์ | ||
การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ 1. เพื่อศึกษาปัจจัยความไว้วางใจในการ
ตัดสินใจซื้อเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 9 ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) ของกลุ่มเจเนอเรชั่น ซี 2. เพื่อ
ศึกษาปัจจัยแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 9 ผ่านสื่อสังคมออนไลน์
(เฟซบุ๊ก) ของกลุ่มเจเนอเรชั่น ซี โดยการวิจัยนี้เป็นเชิงปริมาณ ศึกษาจากสมาชิกในกลุ่มของเฟซบุ๊ก
ประเภทสะสมเหรียญกษาปณ์ จำนวน 5 กลุ่ม ทั้งหมด 400 คน เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโดย
แบบสอบถามออนไลน์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการ
วิเคราะห์หาความสัมพันธ์แบบ F-test โดยการประมวลผลข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นหญิง ร้อยละ 62.25 อายุระหว่าง
30-39 ปี ร้อยละ 45.50 โสด ร้อยละ 61 ปริญญาตรี ร้อยละ 57 พนักงานบริษัท/รับจ้าง ร้อยละ
52 รายได้มากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป ร้อยละ 36 และระยะเวลารวมในการเข้าใช้สื่อสังคม
ออนไลน์ในแต่ละวัน 2-4 ชั่วโมง ร้อยละ 48 จากสมมติฐานการวิจัย
Full Text : Download! |
||
3. | การวัดความพึงพอใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชัชนนท์ เจนเจริญวิลาศ | ||
การศึกษาปัจจัยของความพึงพอใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาปัจจัยที่มีผลและส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ และนำ
ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิจัยเพื่อประกอบการวางแผนกลยุทธ์การพัฒนาเว็บไซต์ให้มีความ
สามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้งานเกิดความพึงพอใจ และมี
ทัศนคติที่ดีต่อเว็บไซต์และองค์กรผู้เป็นเจ้าของเว็บไซต์ โดยทำการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม
และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์สำเร็จรูปทางสถิติ (SPSS) พร้อมสัมภาษณ์ผู้ที่มี
ประสบการณ์เพื่ออ้างอิงกับผลของข้อมูลที่ได้จากผู้ทำแบบสำรวจ
ผลการศึกษาทำให้ทราบว่าปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจคือสถานะที่แตกต่างมีผลต่อ
ความพึงพอใจของผู้ใช้งานในด้านข้อมูล และระยะเวลาในการใช้งานเว็บไซต์มีความสัมพันธ์ต่อ
ความพึงพอใจด้านภาพรวม สาเหตุที่ได้รับการยืนยันจากผู้สัมภาษณ์คือ เนื่องจากสถานะที่
แตกต่างกันระหว่างนักเรียน และผู้ปกครองทำให้มีจุดมุ่งหมายในเนื้อหาที่ต้องการสืบค้นที่
ต่างกัน เช่น นักเรียนต้องการที่จะค้นหารายละเอียดของหลักสูตร และวิชาที่เรียนเป็นต้น แต่
ผู้ปกครองต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตลอดทั้งหลักสูตรการศึกษา หรือโอกาสหลัง
สำเร็จการศึกษา เป็นต้น ในส่วนระยะเวลาในการใช้งานเว็บไซต์มีความสัมพันธ์ต่อความพึง
พอใจด้านภาพล้วน คือ เมื่อผู้ใช้งานมีประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ หรือ ใช้งานเว็บไซต์
มาเป็นระยะเวลานานจะทำให้ผู้ใช้งานมีตัวอย่างในการเปรียบเทียบเมื่อพบเจอ หรือ ทำการใช้
งานเว็บไซต์ใหม่ๆ โดยมาตรฐานของความพึงพอใจของผู้ใช้งานแต่ละคนจะแตกต่างกันตาม
ประสบการณ์ที่ผู้ใช้งานพบเจอ
ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาจึงทำให้ปัจจัยในด้านสถานะ และระยะเวลาในการใช้งานเว
Full Text : Download! |
||
4. | การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต Vacuum Pump ด้วยระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS) [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชัชวาลย์ สุวรรณสิงห์ | ||
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์การใช้เครื่องมือในระบบการผลิตแบบโตโยต้าใน
การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต Vacuum Pump เป็นงานวิจัยเชิงปฏิบัติการในสถานการณ์
จริง โดยทำการวิจัยกระบวนการผลิตทั้งกระบวนการ เพื่อลดความสูญเปล่าของกระบวนการ
จากการวิเคราะห์พบว่ามีความสูญเปล่าที่เกิดจากการผลิตของเสีย ความสูญเปล่าจาก
การผลิตมากเกินไปมีการผลิตไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นไปความความต้องการที่แท้จริง ความสูญเปล่า
จากการเก็บวัสดุคงคลังทำให้มีจำนวนชิ้นงานระหว่างกระบวนการและสินค้าคงคลังจำนวนมาก
เวลานำรวมของการผลิตสูง ดังนั้นจึงได้นำเครื่องมือในระบบการผลิตแบบโตโยต้ามาประยุกต์ใช้
ได้แก่ การปรับปรุงพื้นที่การปฏิบัติงานด้วยการควบคุมให้เห็นด้วยสายตา (Visualized Control)
การสร้างระบบการไหลของชิ้นงานด้วยระบบดึง (Pull System) การจัดทำมาตรฐานการทำงาน
(Standardized Work) และการจัดทำสายธารคุณค่าเพื่อจำแนกคุณค่าของกระบวนการผลิต
ผลจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า จำนวนของเสียที่เป็นปัญหาหลักลดลง จาก 2.6% เป็น
1.25% ชิ้น ส่วนระหว่างกระบวนการลดลงจาก 10,995 ชิ้น เป็น 3,320 ชิ้น เวลานำรวมลดลง
จาก 28 วัน เป็น 25 วัน และประสิทธิภาพกระบวนการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 92.5% เป็น
95.9%
Full Text : Download! |
||
5. | ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ศูนย์บริการรถยนต์ กรณีศึกษา ศูนย์บริการมิตซูบิชิ จังหวัดนนทบุรี [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชินภัทร์ ธรรมพลิน | ||
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1. เพื่อศึกษาคุณภาพการให้บริการ
ของศูนย์บริการรถยนต์ มิตซูบิชิ จังหวัดนนทบุรี 2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ
ศูนย์บริการรถยนต์ มิตซูบิชิ จังหวัดนนทบุรี 3. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพการ
ให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการศูนย์บริการรถยนต์ มิตซูบิชิ จังหวัดนนทบุรี
เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่เข้ามาใช้บริการศูนย์บริการรถยนต์ มิตซูบิชิ
จังหวัดนนทบุรี อายุ 25 ปีขึ้นไป จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นการเก็บรวบรวม
ข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ
การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์แบบ T-test โดยการประมวลผลข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามโดยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง
25-34 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน/รับจ้าง มีรายได้ต่อเดือน
อยู่ที่ 10,001-20,000 บาท และมีระยะเวลาในการเข้ามาใช้บริการศูนย์บริการรถยนต์ต่อเดือน
คือ มากกว่า 4 เดือน/ครั้ง จากสมมติฐานการวิจัย ผลคุณภาพการให้บริการของศูนย์บริการรถยนต์
มิตซูบิชิ จังหวัดนนทบุรี โดยรวมอยู่ในระดับมาก ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการศูนย์บริการ
รถยนต์ มิตซูบิชิ จังหวัดนนทบุรี โดยรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมาก และความสัมพันธ์
ระหว่างคุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของศูนย์บริการรถยนต์ มิตซูบิชิ จังหวัด
นนทบุรี สรุปในแต่ละด้านดังนี้ ด้านความเป็นรูปธรรมของการบริการ ด้านความเชื่อถือไว้วางใจ
ได้และด้านการตอบสนองต่อลูกค้าส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการศูนย์บริการรถยนต์
มิตซูบิชิ จังหวัดนนทบุรี ส่วนด้านการให้ความเชื่อมั่นจากเจ้
Full Text : Download! |
||
6. | SUPPLIER SELECTION CRITERIA IN C-CHECK MAINTENANCE SERVICE PROVIDERS [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : Chote Limsintaropas | ||
The objective of this study is to establish criteria for aircraft C-check maintenance supplier selection including to identify their weight and demonstrating tool to be used. Qualitative research was conducted. Criteria are created based on the empirical study of 10 journals, which are related to the aviation industry, the weight and its rational are derived from an in-depth interview with management level officers in the airline. The in-depth interview was conducted during December 2016.
The study shows that there are four important criteria which are cost, quality, delivery, and compatibility. Quality is a must for C-check maintenance service provider. Conforming to specification or standards are the top priority and could not be compromised. The C-check is a high cost process that could impact airline cash flow. Delivery could have severe impact on operation.
Full Text : Download! |
||
7. | การควบคุมคุณภาพชิ้นงานในกระบวนการพ่นสีพลาสติกด้วย กระบวนการควบคุมคุณภาพ กรณีศึกษา บริษัทไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ดาริกา ตั้งจิตเสถียรกุล | ||
การศึกษาในครั้งนี้ ได้มุ่งเน้นศึกษาการควบคุมคุณภาพชิ้นงาน ในกระบวนการพ่นสี
พลาสติกด้วย กระบวนการควบคุมคุณภาพ กรณีศึกษา บริษัทไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง
จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดของเสียในกระบวนการพ่นสีพลาสติก ประเภทเม็ดฝุ่นบนผิวสี
ชั้นบน (Top Coat) ของชิ้นงานโครงไฟหน้า (Cover Front) รถจักรยานยนต์ เพื่อศึกษาการ
ควบคุมปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในแง่ของการลด
เวลาการซ่อมชิ้นงาน ด้วยกระบวนการควบคุมคุณภาพ (QC Story) โดยทำการเก็บข้อมูลของ
เสียจากการพ่นสีพลาสติกชิ้นงานโครงไฟหน้า (Cover Front) จำนวน 117,073 ชิ้น (กลุ่มตัว
อย่าที่ศึกษา 100%) ระยะเวลาการศึกษาตั้งแต่เดือน มีนาคม-สิงหาคม พ.ศ.2559 โดยทำ
การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชิ้นงานโครงไฟหน้า 3 ปัจจัย คือ ความสะอาดของอุปกรณ์จับ
ยึด ค่าความสมดุลของอากาศ และความสะอาดของอุปกรณ์พ่นสี การศึกษาเริ่มจากขั้นตอนการ
คัดเลือกปัญหา (Select Topic) โดยใช้ใบตรวจสอบ (Check Sheet) และทำความเข้าใจ
สถานการณ์ (Understanding Situation) พบว่าสัดส่วนของเสียที่พบมากที่สุดคือ ปัญหาเม็ดฝุ่น
บนผิวสีชั้นบนคิดเป็นร้อยละ 19.24 ของยอดผลิต ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงพิจารณาควบคุม
ปัญหาคุณภาพ ประเภทเม็ดฝุ่นบนพื้นผิวสี โดยวางแผนการดำเนินกิจกรรม (Plan Activities)
เป็นเวลา 6 เดือน
ผลการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา (Analyze) ด้วยแผนภูมิแสดงเหตุและผล และ
การวิเคราะห์ผลกระทบและความบกพร่อง (FMEA) พบปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเกิดเม็ดฝุ่น 3
ปัจจัยหลักคือ ความสะอาดของอุปกรณ์จับยึด ค่าความสมดุลของอากาศ และความสะอาดของ
อุปกรณ์พ่นสี จึงดำเนินการหามาตรการตอบโต้ (Implement Countermeasure) โดยปรับปรุง
ความถี่การทำความสะอาดอุ
Full Text : Download! |
||
8. | การศึกษาปัจจัยการเลือกซื้อวีดีโอเกมผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคในประเทศไทย [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : กสิณ อมรินทร์แสงเพ็ญ | ||
งานวิจัยนี้ศึกษาปัจจัยการเลือกซื้อเกมผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคในประเทศ
ไทย โดยศึกษาผ่านช่องทางออนไลน์จำนวน 400 คน เพื่อหาปัจจัยที่มีผลต่อความถี่ในการซื้อ
เกม และจำนวนเงินที่ใช้ในการซื้อเกมต่อเดือน โดยแบ่งออกเป็น 1. ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์
2. ข้อมูลด้านประสบการณ์การซื้อเกม 3. ข้อมูลด้านคุณลักษณะของเกม 4.ข้อมูลด้านปัจจัย
ภายนอกของเกม 5. ข้อมูลด้านการเลือกซื้อเกม ด้วยการสุ่มอย่างง่าย ผ่าน Google Forms
แล้วนำมาทดสอบหาความสัมพันธ์ต่อความถี่การซื้อและจำนวนเงินที่ใช้ในการซื้อด้วย F-test,
independent T-test และ Pearson Correlation โดยใช้โปรแกรม SPSS
ผลการศึกษาพบว่าผู้ทำแบบสำรวจมีความสนใจมากคือแนวเกม ราคา ความคุ้นเคย
สนใจรองลงมาคือ ค่ายเกม กราฟฟิก รีวิว และสนใจเพื่อน ทุนการสร้าง และโฆษณาน้อยที่สุด
และผลจากการทดสอบด้วย F-test, Independent T-test หาความสัมพันธ์ปัจจัยที่มีผลต่อ
ความถี่ในการซื้อคือ ราคา และค่ายเกม ส่วนปัจจัยที่ผลต่อจำนวนเงินที่ใช้ในการซื้อเกมต่อเดือน
คือ อายุ รายได้ต่อเดือน ความคุ้นเคย ทุนการสร้าง ราคา ค่ายเกม สื่อชี้ชวน
Full Text : Download! |
||
9. | การสร้างระบบประเมินและคัดเลือกผู้จัดหาวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์ ของบริษัท บางกอกฟู้ด ซิสเต็ม จำกัด [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ลลิตา เอี่ยมสมบูรณ์ | ||
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเกณฑ์หรือปัจจัยที่ใช้ในการประเมินผู้จัดหา
วัตถุดิบบรรจุภัณฑ์ โดยนำเทคนิคกระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ (AHP) และโปรแกรม
Microsoft Excel มาประยุกต์ใช้ในการสร้างระบบประเมินและคัดเลือกผู้จัดหาวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์
ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทบางกอกฟู้ด ซิสเต็ม
จำกัด ซึ่งผู้ศึกษาได้ศึกษาจากผู้จัดหาวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก 3 บริษัท และผู้จัดหา
วัตถุดิบบรรจุภัณฑ์ประเภทซองหรือถุง (Pouch) จำนวน 3 บริษัท โดยการศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษา
ได้ทำการสร้างแบบสอบถามเพื่อนำมาประชุมระดมความคิด (Brainstorm) จากแผนกที่เกี่ยวข้อง
เพื่อสอบถามถึงเกณฑ์ที่มีผลต่อการประเมินและคัดเลือกผู้จัดหาวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์สำหรับ
บริษัทกรณีศึกษา รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของเกณฑ์ และการเปรียบเทียบผู้จัดหาที่มี
ผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดตามเกณฑ์แต่ละเกณฑ์
ในส่วนของผลการศึกษาพบว่า เกณฑ์ที่มีผลต่อการประเมินและคัดเลือกผู้จัดหา
วัตถุดิบบรรจุภัณฑ์มีจำนวนทั้งสิ้น 5 เกณฑ์เรียงตามลำดับความสำคัญ ได้แก่ เกณฑ์ด้าน
คุณภาพ เกณฑ์ด้านเวลานำ เกณฑ์ด้านราคา เกณฑ์ด้านการส่งมอบ และเกณฑ์ด้านการบริการ
เมื่อพิจารณาถึงผลการเปรียบเทียบผู้จัดหาทีละคู่ตามเกณฑ์การประเมินทีละเกณฑ์ (Pairwise)
ในการพัฒนาสินค้าใหม่ในครั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องเลือกบริษัท U เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์
ประเภทกล่องลูกฟูก และเลือกบริษัท P เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์ซอง Standing Pouch
เนื่องจากมีผลการประเมินเปรียบเทียบรวมของทุกเกณฑ์มากที่สุด สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ใหม่ในครั้งนี้
Full Text : Download! |
||
10. | การลดเวลาการเปลี่ยนรุ่นของเครื่องจักรผลิตถุงพลาสติกใส่ดอกไม้โดยใช้เทคนิค SMED [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : มาริสา วิมลวรวิทย์ | ||
สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดเวลาการเปลี่ยนรุ่นของเครื่องจักรผลิตถุงพลาสติก
ใส่ดอกไม้โดยใช้เทคนิค Single Minute Exchange of Die (SMED) ร่วมกับการประยุกต์ใช้
แผนภูมิการไหล ECRS และแผนภูมิกิจกรรมเพื่อให้สามารถลดเวลาการเปลี่ยนรุ่นเรื่องจักร
ได้มากขึ้น รวมทั้งจัดทำมาตรฐานการเปลี่ยนรุ่นเครื่องจักร นอกจากนั้นยังได้พิจารณาทางเลือก
ไว้เพิ่มอีก 2 แนวทางคือ การเพิ่มจำนวนเครื่องจักร และการเพิ่มชั่วโมงการทำงานนอกเวลา
เพื่อเปรียบเทียบและเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดกับบริษัท
ผลจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเวลาการเปลี่ยนรุ่นเครื่องจักรลดลง จากเดิม 3,181 วินาที
เหลือ 1,383 วินาทีหรือคิดเป็นเวลาที่ลดลงร้อยละ 56.52 และยังพบว่ากำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
500 ชิ้นต่อวัน หรือเท่ากับ 11,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
และเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการเพิ่มการผลิตอีก 2 แนวทางพบว่าแนวทางที่เหมาะสม
กับบริษัทที่สุดคือการลดเวลาการเปลี่ยนรุ่นการผลิตเนื่องจากมีต้นทุนต่ำที่สุดและไม่จำเป็นต้อง
ใช้ทรัพยากรเพิ่มจากที่มีอยู่
Full Text : Download! |
||
Center of Academic Resource
Institute of Technology 1771/1, E Building, Fl. 2,
Pattanakarn Rd, Suan Luang, Bangkok, 10250