fieldjournalid
![]() | สารนิพนธ์ (MBI) 2023 |
1. | กลยุทธ์การตลาดในฐานะตัวแปรกากับของอิทธิพลแรงจูงใจที่นาไปสู่เจตนาซื้อของกาแฟฟังก์ชั่น [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชานนท์ ธีระบุญชัยกุล | ||
ปัจจุบันคนไทยมีความต้องการบริโภคเครื่องดื่มกาแฟเพิ่มสูงขึ้นจากผลการสารวจพบว่าผู้บริโภคกาแฟอยู่ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 15 ต่อปี คนไทยบริโภคกาแฟเฉลี่ยอยู่ที่ 300 แก้วต่อคนต่อปีอีกทั้ง อิทธิพลของกาแฟพร้อมดื่มซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของกาแฟฟังก์ชั่นที่เข้ามามีบทบาทต่อผู้บริโภคในยุคโควิด 19 ที่เพิ่มสารอาหาร สารสกัด และสมุนไพรจากธรรมชาติ และมีส่วนช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายขณะดื่ม
ผู้วิจัยมีความสนใจศึกษาในส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อเจตนาซื้อ โดยวัตถุประสงค์ในการวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วย 1) เพื่อศึกษาอิทธิพลของแรงจูงใจที่มีต่อเจตนาซื้อกาแฟฟังก์ชั่น 2) เพื่อศึกษาส่วนประสมการตลาดในฐานะตัวแปรกากับของอิทธิพลแรงจูงใจที่นาไปสู่เกิดเจตนาซื้อกาแฟฟังก์ชั่น
ผู้วิจัยได้ทาการวิเคราะห์จากแบบสอบถามออนไลน์จานวน 206 ชุด ในกลุ่มผู้บริโภคกาแฟฟังก์ชั่น โดยใช้การวิเคราะห์สถิติ (Multiple Regression Analysis) ในการทดสอบความสัมพันธ์ทางตรงและทางอ้อมระหว่างโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์และเพื่อทดสอบสมมติฐาน จากผลการวิจัยพบว่า 1) ส่วนประสมทางการตลาดในปัจจัยด้านสถานที่และผลิตภัณฑ์ฐานะตัวแปรกากับไม่มีอิทธิพลทางตรงต่อเจตนาซื้อกาแฟฟังก์ชั่นและแรงจูงใจมีอิทธิพลทางตรงต่อเจตนาซื้อกาแฟฟังก์ชั่น 2) ส่วนประสมทางการตลาดในปัจจัยด้านราคาและการส่งเสริมการตลาดฐานะตัวแปรกากับมีอิทธิพลทางตรงเจตนาซื้อกาแฟฟังก์ชั่นและแรงจูงใจมีอิทธิพลทางตรงต่อเจตนาซื้อกาแฟฟังก์ชั่นของผู้บริโภค
Full Text : Download! |
||
2. | อิทธิพลของไคเซ็นความปลอดภัยและการตระหนักความปลอดภัยที่ส่งผลต่อ พฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานของโรงงานอุตสาหกรรมอลูมิเนียมแห่งหนึ่ง [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : เอกชัย อิสสร | ||
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อทราบถึงระดับความคิดเห็นของไคเซ็นความปลอดภัย วัฒนธรรมความปลอดภัย ความตระหนักความปลอดภัย และพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน และ 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของไคเซ็นความปลอดภัยและการตระหนักความปลอดภัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลกับพนักงานที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ของโรงงานอุตสาหกรรมอลูมิเนียมแห่งหนึ่ง จำนวน 500 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์ตัวแบบสมการโครงสร้างด้วย Smart PLS 4.0 ผลการศึกษาพบว่า ทำให้ทราบถึงระดับความคิดเห็นของไคเซ็นความปลอดภัย โดยรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่งที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 วัฒนธรรมความปลอดภัย ด้านการรับรู้ (Perception) โดยรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่งที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.30 ด้านพฤติกรรม (Behavior) โดยรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่งที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.27 ด้านจิตวิทยาภายในองค์กร (Psychology) โดยรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่งที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31 ความตระหนักความปลอดภัย โดยรวมอยู่ในระดับตระหนักรู้มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 และพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน โดยรวมอยู่ในระดับประจำ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 และพบว่า ไคเซ็นความปลอดภัยและการตระหนักความปลอดภัย และวัฒนธรรมความปลอดภัยมีผลต่อพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงาน ปัจจัยด้านไคเซ็นความปลอดภัย (Safety Kaizen) มีอิทธิพลเชิงบวกต่อปัจจัยด้านวัฒนธรรมความปลอดภัย (Safety Culture) ปัจจัยด้านความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัย (Safety Awareness) มีอิทธิพลเชิงบวกต่อปัจจัยด้านวัฒนธรรมความปลอดภัย (Safety Culture) ปัจจัยด้านวัฒ
Full Text : Download! |
||
3. | ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : กนิษฐา นาคสุข | ||
การศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นด้านต่างๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 1/2566 จานวน 375 คน ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างตามความสะดวก โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปสาหรับวิเคราะห์สถิติ เพื่อคานวณหาค่าสถิติ ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และการวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Automatic Linear Modeling
การวิจัยพบว่า ในภาพรวมของสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีมากที่สุดคือ ปัจจัยด้านครอบครัว เมื่อแยกตามรายคณะวิชาจะพบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อมากที่สุดของคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ปัจจัยด้านสถาบัน ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อมากที่สุดของคณะบริหารธุรกิจ คือ ปัจจัยด้านครอบครัว และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อมากที่สุดของ วิทยาลัยนานาชาติ คือ ปัจจัยด้านหลักสูตร
ข้อเสนอแนะ 1) ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรหรือเข้าร่วมกิจกรรมกับทางสถาบันฯ จะช่วยให้ผู้ปกครองมีความคุ้นเคยและเข้าใจเรื่องการศึกษาในสถาบันฯ และเสริมสร้างความโปร่งใสในกระบวนการศึกษาอย่างชัดเจน 2) การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีทางด้านสภาพแวดล้อมในการเรีย
Full Text : Download! |
||
4. | การศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจการเพิ่มคุณค่าสินค้าของขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติก (พอลิโพรพิลีน : PP) เพื่อนำกลับมาใช้ให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : เกษราภรณ์ ตรงต่อศักดิ์ | ||
จากการศึกษาความคุ้มค่าในการลงทุนทำธุรกิจการเพิ่มคุณค่าสินค้าของขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติก (พอลิโพรพิลีน : PP) เพื่อนำกลับมาใช้ให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนนั้นพบว่า ธุรกิจพอลิโพรพิลีน รีไซเคิลได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับแนวปฏิบัติของเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมพลาสติก การศึกษานี้ครอบคลุมถึงที่มาและความสำคัญ, เทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล, แผนการตลาดและการเงิน, โอกาส, ความท้าทาย และความเสี่ยงของธุรกิจการเพิ่มคุณค่าสินค้าของขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติก (พอลิโพรพิลีน : PP) ด้วยกระบวนการรีไซเคิลทางกลเท่านั้น ในอุตสาหกรรมกลุ่มต่างๆ มีการนำพลาสติกพอลิโพรพิลีนรีไซเคิลมาใช้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีคุณภาพในการใช้งาน ที่ใกล้เคียงกับพอลีโพรพีลีนบริสุทธิ์ (Virgin) โดยมีต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนี้ ก็ยังมีความเสี่ยงและความท้าทายอยู่สูงในเรื่องของการรักษาคุณภาพของวัตถุดิบขยะให้สม่ำเสมอ การจัดการความเสี่ยงในการปนเปื้อน และมีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีในกระบวนการรีไซเคิล รวมถึงราคาต้นทุนที่สูงที่ใช้ในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาดนี้
จากการศึกษาธุรกิจการเพิ่มคุณค่าสินค้าของขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติก (พอลิโพรพิลีน : PP) เพื่อนำกลับมาใช้ให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนคาดว่าต้องใช้งบลงทุนในปีที่ 0 มูลค่า 300 ล้านบาท และมีเงินทุนหมุนเวียนต่อปีอยู่ที่ 10 ล้านบาท โดยอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อปีอยู่ที่ประมาณ 22% มูลค่าปัจจุบันสุทธิของกิจการ (Net Present Value : NPV) กรณีสถานการณ์ปกติ (Base Case) 10 ปี เท่ากับ 1,080.6 ล้านบาท เมื่อมีต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 10% อัตราภายในโครงการ (IRR) มีค่
Full Text : Download! |
||
5. | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : มณฑิรา ปราบสิทธิ์ | ||
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชของกลุ่มประชากรในกรุงเทพมหานคร 2) ศึกษาปัจจัยและกระบวนการที่มีผลต่อการรับรู้ในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชของกลุ่มประชากรในกรุงเทพมหานคร 3) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชของกลุ่มประชากรในกรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ กลุ่มประชากรในกรุงเทพมหานคร ที่ไม่ได้มีการแพ้อาหารที่ทำมาจากโปรตีนจากพืช จำนวน 400 คน ด้วยวิธีการสุ่มตามความสะดวก โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล และประมวลผลโดยโปรแกรม SPSS เพื่อคำนวณ หาค่าสถิติ ดังนี้ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ Multiple Regression Analysis
ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีช่วงอายุ 21-45 ปี สถานภาพโสด การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพพนักงานบริษัท รายได้เฉลี่ยต่อเดือน อยู่ระหว่าง 15,000-30,000 บาท และมีพฤติกรรมบริโภคเนื้อสัตว์และผักในปริมาณเท่ากัน โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชของผู้บริโภค มี 2 ปัจจัย ที่มีค่า P-value = 0.000 และมีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01 คือ ปัจจัยทางด้านจิตวิทยาและปัจจัยทางด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ส่วนปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา และปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชของผู้บริโภค
Full Text : Download! |
||
6. | การเปรียบเทียบคุณค่าที่ผู้บริโภคได้รับจากการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์และ ระบบสตรีมมิ่ง [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : นภนต์ นวัตภากร | ||
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาคุณค่าที่ผู้ชมภาพยนตร์ได้รับหรือให้ความสำคัญจากการรับชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ คุณค่าที่ได้รับจากการชมภาพยนตร์ในระบบสตรีมมิ่ง และความแตกต่างระหว่างคุณค่าที่ผู้ชมได้รับจากการชมภาพยนตร์ใน
โรงภาพยนตร์และระบบสตรีมมิ่ง โดยทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 226 คน ทำการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามออนไลน์ผ่าน Google Forms สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Mean) การแปลความหมายของค่าเฉลี่ยเลขคณิต วิธี Paired Sample
T-Test และการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า คุณค่าที่ผู้บริโภคได้รับหรือให้ความสำคัญเมื่อชมภาพยนตร์ใน
โรงภาพยนตร์คือ โฆษณาที่เสริมอยากให้ชมภาพยนตร์ ราคาตั๋วภาพยนตร์ และการมีตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ให้รับชม หากเป็นระบบสตรีมมิ่งจะได้รับคุณค่าด้านความสะดวกในการรับชม การได้รับสิ่งที่มากกว่าการรับชม และความหลากหลายของแนวภาพยนตร์ ความแตกต่างของคุณค่าที่พบคือความหลากหลายของแนวภาพยนตร์ การได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการรับชม ความเสี่ยงต่อการติดโรค ภาพยนตร์ที่รับชมสามารถชมซ้ำได้ และมีตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องอื่นให้รับชม และยังพบว่าการมีตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ให้รับชมสามารถทำให้ผู้ชมหันมาชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ แต่ความหลากหลายของแนวภาพยนตร์สามารถทำให้ผู้ชมหันมารับชมในระบบสตรีมมิ่งมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการของธุรกิจทั้งสองแบบอาจนำผลการวิจัยนี้ไปปรับใช้เพื่อให้เกิดผู้ใช้บริการของทั้งสองระบบเพิ่มขี้น
Full Text : Download! |
||
7. | แผนธุรกิจเค้กกระป๋อง “CANTORY” [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ณัฐชยา พรหมสุข | ||
ในการจัดทำแผนธุรกิจเค้กกระป๋อง “ANTORY” มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแผนธุรกิจเค้กกระป๋องของบริษัท CANTORY เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจจากปัจจัยในด้านต่างๆ ที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้จากการดำเนินธุรกิจ และเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้สามารถบรรลุเป้าหมายของธุรกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่การศึกษาเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจเค้กกระป๋องในประเทศไทย ทั้งด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรม สภาพตลาด กลยุทธ์ในการทำแผนการตลาด การวางแผนการดำเนินงาน การวางแผนทางการเงิน รวมไปถึงความเสี่ยงและปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจ บริษัท CANTORY เป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายเค้กกระป๋องสูตรไขมันต่ำ (Low Fat) และมีท็อปปิ้งเป็นผลไม้สดให้เลือกหลากหลายชนิด เมื่อทำการวิเคราะห์คู่แข่งขันพบว่า คู่แข่งขันทางตรงที่มีผลิตภัณฑ์และขนาดของธุรกิจใกล้เคียงกันมากที่สุดมีเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น ในขณะที่คู่แข่งขันทางอ้อมมีอยู่มากมาย เมื่อวิเคราะห์จุดแข็งของบริษัทพบว่า ผลิตภัณฑ์สามารถรับประทานและพกพาได้สะดวก ผู้บริโภคสามารถปรับแต่ง (Customize) ได้ตามความชอบ และเป็นเค้กสูตรไขมันต่ำ (Low Fat) ที่คนรักสุขภาพก็รับประทานได้ การศึกษาความได้เปรียบในการแข่งขันนี้จะนำไปสู่การสร้างกลยุทธ์ในด้านต่างๆ เพื่อให้บริษัทสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมและบรรลุเป้าหมายของธุรกิจตามที่กำหนดไว้
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การลงทุนในธุรกิจเค้กกระป๋องสามารถเป็นไปได้จริง และสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินของบริษัท โดยบริษัทมีความน่าสนใจอยู่ที่มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เป็นบวก หรือเท่ากับ 1,731,618.07 บาท เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 36.57 และมีระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) เท่ากับ 3 ปี หากพิจารณาผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ธุร
Full Text : Download! |
||
8. | การใช้ระบบ E-Kanban (ดึง) เพื่อลดปริมาณจัดเก็บวัสดุคงคลังหน้าไลน์การผลิต [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : นิรันดร์ ครูทำนา | ||
สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและวิเคราะห์หาสาเหตุในกระบวน การจัดส่งวัสดุคงคลังไปยังหน่วยงานบรรจุภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดเวลา และความสูญเปล่าจากกระบวนแผนกวัสดุคงคลังและลดลดปริมาณจัดเก็บวัสดุคงคลังหน้าจากปัญหา วัสดุคงคลังมากเกินความจำเป็น จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เครื่องมือแผนผังก้างปลาและใช้หลักการ 3 จริง ทำการพิสูจน์พบว่ามี 2 ประเด็นที่ทำให้เกิดปัญหาคือ 1 มีการจัดส่งวัสดุก่อนการใช้งานจริงทำให้วัสดุคงคลังรอการใช้งานมากถึง 40% และประเด็นที่ 2 ไม่ได้กำหนดปริมาณวัสดุต่อรอบส่ง ดังนั้นจึงกำหนดมาตรการแก้ไขด้วยการประยุกต์ใช้ระบบคัมบังดึงแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Kanban) หลังจากดำเนินการปรับปรุงพบว่า เวลาการหยิบวัสดุต่อกล่องจากเดิม 1.6 วินาทีต่อกล่องลดลงเป็น 1.4 วินาทีต่อกล่อง โดยลดลง 0.2 วินาที คิดเป็นร้อยละ 12 และไม่พบเวลาของวัสดุรอการใช้งานเกินกว่า 30 นาทีซึ่งจากเดิมมีอยู่ร้อยละ 40 ส่งผลให้พื้นที่จัดเก็บวัสดุคงคลังหน้าหน้าไลน์การผลิตจากเดิม 36 ตารางเมตรลดลงเหลือ 18 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 50
Full Text : Download! |
||
9. | ระบบจัดการโลจิสติกส์อุตสาหกรรม 4.0 และทัศนคติค่า GP ต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการผู้ให้บริการขนส่งอาหารของ ผู้ประกอบอาหาร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : พัชรี สิมชาติ | ||
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของทัศนคติ ค่า GP ระบบการจัดการโลจิสติกส์อุตสาหกรรม 4.0 และคุณภาพการบริการและการตัดสินใจใช้บริการ Food Delivery 2. เพื่อศึกษาอิทธิพลที่ส่งผลต่อการตัดสินใจใช้บริการ Food Delivery ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลกับผู้ใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีประสบการณ์ไปใช้บริษัท Food Delivery ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 300 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์ตัวแบบสมการโครงสร้างด้วย Smart PLS 4.0 ผลการศึกษาพบว่า ความคาดหวังของผู้บริโภคมีอิทธิผลเชิงบวกต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ตัวแปรวัฒนธรรมกระแสนิยมมีอิทธิผลเชิงบวกต่อความพึงพอใจของผู้ใช้ บริการตัวแปรการบริการเชิงบวกต่อการกลับมาใช้บริษัท Food Delivery ซ้ำ ตัวแปรความพึงพอใจของผู้ใช้ บริการอิทธิผลเชิงบวกต่อการกลับมาใช้บริการบริษัท Food Delivery ซ้ำ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ส่วนการบริการไม่มีอิทธิผลเชิงบวกต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ
Full Text : Download! |
||
10. | แผนธุรกิจสำหรับบ้านพักประเภทรีสอร์ทในจังหวัดเพชรบูรณ์ [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : พิชามญชุ์ ธีรนิติ | ||
ปัจจุบันการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ทั้งที่มาจากการสนับสนุนของภาพลักษณ์และเอกชน และ หลังสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเฉลี่ย 3.5% ในช่วงปีพ.ศ. 2566-2568 ปรับตัวดีขึ้นจากเดิมที่เติบโต 3.2% อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีสัดส่วนสูงขึ้นทำให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักมีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วย โดยในช่วงที่ผ่านมาพบว่าธุรกิจโรงแรมและที่พักมีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ประสบการณ์ที่มีมากกว่าการพักผ่อนได้รับความสนใจจากกลุ่มนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยเรื่อยโดยเฉพาะธุรกิจที่พักประเภทรีสอร์ทที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
จากเหตุผลข้างต้นผู้เขียนจึงได้เล็งเห็นโอกาสในการทำธุรกิจรีสอร์ท ภายใต้ชื่อ รีสอร์ท ABC ตั้งอยู่ในอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยรีสอร์ท ABC มีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่พักที่เน้นความเป็นท้องถิ่น อีกทั้งมีกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ของครอบครัวที่เข้ามาพัก ทางรีสอร์ท ABC เหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ต้องการใช้เวลาร่วมกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน นักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
แผนธุรกิจรีสอร์ท ABC ครอบคลุมไปถึงการวิเคราะห์ภาพรวมอุตสาหกรรมและแนวโน้มของธุรกิจโรงแรมและที่พัก การเก็บข้อมูลศึกษาความต้องการของลูกค้า การวางแผนกระบวนการจัดการ ที่พัก กระบวนการควบคุมการบริการให้ได้มาตรฐาน การทำการตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อออนไลน์ การบริหารกำลังคนที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด การออกแบบกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและเพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ
จากการศึกษาควา
Full Text : Download! |
||
Center of Academic Resource
Institute of Technology 1771/1, E Building, Fl. 2,
Pattanakarn Rd, Suan Luang, Bangkok, 10250