fieldjournalid
![]() | สารนิพนธ์ (EEM) 2012 |
1. | การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อศูนย์สอบเทียบเครื่องมือวัด อุตสาหกรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : กิตติพงษ์ ถาปนา | ||
การศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจุดมุ่งหมายในการศึกษาค้นคว้าอิสระ
1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความพึงพอใจในการเลือกใช้บริการของกลุ่มลูกค้าศูนย์สอบ
เทียบเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรม
ของกลุ่มลูกค้าต่อการเลือกใช้บริการของศูนย์สอบเทียบเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม สมาคม
ส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
กลุ่มตัวอย่างในการศึกษา ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มาใช้บริการศูนย์สอบเทียบ
เครื่องมือวัดอุตสาหกรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) เก็บรวบรวมข้อมูลในลักษณะ
แบบสอบถาม จำนวน 360 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการประมวลผลและวิเคราะห์ ได้แก่ การวิเคราะห์
ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าสถิติทดสอบ
(F-test) ค่าสถิติทดสอบ (T-test) และการทดสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม โดยใช้สูตร
สัมประสิทธิ์แอลฟ่า (Coefficient) ของครอนบัค โดยใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูป
จากผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดกลาง ประเภทของ
ลูกค้าที่มีจำนวนมากที่สุด คือ ห้องปฏิบัติการทดสอบหรือสอบเทียบ เป็นบริษัทไทย สาขา
อุณหภูมิเป็นสาขาที่มีจำนวนการสอบเทียบมากที่สุด กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มาใช้บริการ 6 เดือน
- 1ปีต่อครั้ง มีค่าใช้จ่ายต่อครั้งมากที่สุด คือ มากกว่า 5,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท มาใช้
บริการในวันจันทร์ ผลการศึกษาปัจจัยในแต่ละด้าน พบปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของ
ลูกค้าเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ 1)ด้านองค์ประกอบที่เป็นรูปธรรม ศูนย์สอบเทียบมีบรรยากาศที่
อบอุ่นและเป็นศูนย์สอบเทียบที่สะอาด 2)ด้านการสนองต่อลูกค้า มีความหลากหลายของสาขา
งานและขอบข่ายการให้บริการมากสุดและเจ้าหน้าที่มีความ
Full Text : Download! |
||
2. | ความสัมพันธ์ระหว่างการขายโดยการวินิจฉัยกระบวนการผลิตของลูกค้ากับยอดขาย เครื่องมือตัดแต่งขึ้นรูปโลหะของโรงงาน [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : เกียรติศักดิ์ เกษเสถียร | ||
การศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการขายโดยการวินิจฉัยกระบวนการผลิตของลูกค้ากับยอดขายเครื่องมือตัดแต่งขึ้นรูปโลหะของโรงงานผู้ศึกษาโดยมีกลุ่มตัวอย่างในสองประเภทอุตสาหกรรม คือ อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมแอร์คอมเพลสเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีกำลังซื้อและสามารถทำกำไรให้กับโรงงาน ผู้ศึกษา จานวน 2 บริษัท เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ ใบบันทึกการไหลของกระบวนการ ตารางบันทึกเวลามาตรฐาน ตารางการวิเคราะห์ของข้อมูลด้านต้นทุนและเวลาในการผลิต ตารางเปรียบเทียบเครื่องมือและแนวทางการปรับปรุง และแผนภาพการสมดุลสายการผลิต เพื่อใช้ในการวินิจฉัยกระบวนการผลิตและเป็นแนวทางในการปรับปรุงเปรียบเทียบก่อนและหลังการแก้ปัญหา เพื่อให้ได้มาซึ่งสมมติฐานในเรื่องยอดขายที่เพิ่มขึ้น
ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า กระบวนการขายโดยการวินิจฉัยกระบวนการผลิตของลูกค้าซึ่งเป็นการให้บริการก่อนการขาย ทำให้ยอดขายเครื่องมือตัดแต่งขึ้นรูปโลหะของโรงงานเพิ่มขึ้นทั้งสองสายการผลิตของลูกค้า โดยสายการผลิตเสื้อสูบยอดขายเพิ่มขึ้น 188 เปอร์เซ็นต์ และสายการผลิตเพลาข้อเหวี่ยงได้ยอดขายเพิ่มขึ้น 366 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับก่อนปรับปรุง และทำการทดสอบความมีนัยสำคัญของการเพิ่มยอดขายก่อนและหลังของโรงงานที่มีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และจากการวินิจฉัยกระบวนการผลิตของลูกค้าก็สามารถทำให้ลูกค้ามีความสามารถในการผลิตที่ดีขึ้นเช่นกัน
จากการศึกษา ผู้ที่ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือตัดแต่งขึ้นรูปโลหะควรให้ความสำคัญกับการให้บริการก่อนการขายและสร้างความแตกต่างของการให้บริการ ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้ได้ใช้หลักการวินิจฉัยกระบวนการผลิตมาเพื่อยกระดับการให้บริการที่มากขึ้นและเป็น การมุ่งเน้นการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
Full Text : Download! |
||
3. | การวินิจฉัยองค์กรเพื่อลดต้นทุนพลังงานและสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : คงสิทธิ์ อภิวงศ์ | ||
การศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการวินิจฉัยองค์กรเพื่อลดต้นทุนพลังงานและสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักการเทคนิคและเครื่องมือของการวินิจฉัยสถานประกอบการ (Shindan) และการวินิจฉัยพลังงานจากการดำเนินงานด้านต่างๆ โดยทำการศึกษาบริษัทแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมหล่อลื่น ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและรับจ้างผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นํ้ามันหล่อลื่นและจารบี เป็นกรณีศึกษา
ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น วิเคราะห์รายงานทางการเงินของสถานประกอบการย้อนหลัง 3 ปี และได้ทำการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ภาพรวมและแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม เพื่อหาประเด็นที่น่าสนใจแล้วนำมาตั้งเป็นสมมติฐาน ในการค้นหาสภาพปัจจุบันและข้อเท็จจริงของการดำเนินงานในด้านการจัดการ การผลิต การเงิน การตลาดและแรงงาน นำมาสรุปหาความสัมพันธ์ของปัญหาเพื่อหาปัญหาหลักที่ทำให้ต้นทุนพลังงานของสถานประกอบการสูงขึ้นโดยการวินิจฉัยและวิเคราะห์การสูญเสียประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เช่น เครื่องจักร การปฏิบัติงาน การใช้ประโยชน์และการจัดการ และหาสาเหตุที่แท้จริงพร้อมหาแนวทางแก้ไขปรับปรุงผลการศึกษาจากข้อมูลเบื้องต้นและการวิเคราะห์งบการเงินของสถานประกอบการ พบว่า ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มสูงขึ้นและมีกำไรขั้นต้นลดลงในปี 2553 พบว่าปัญหาหลักเกิดจากต้นทุนพลังงานสูงขึ้น จากการวิเคราะห์โดยใช้ดัชนีชี้วัดการใช้พลังงานและ Cusum Chart เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง สาเหตุหลักที่พบ คือ ผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพทำให้ต้องมีการนำผลิตภัณฑ์มาผ่านกระบวนการใหม่หรือ Rework และมีแนวโน้มมากขึ้น สาเหตุจาก การรั่วหรือชำรุดของซีลฝาถังผสมของผลิตภัณฑ์จารบี ส่งผลให้มีต้นทุนการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้น นอกจากนั้น ผู้ศึกษาได้ศึกษาต้นทุนผลิตและต้นทุนพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้นเกิดจากการสิ
Full Text : Download! |
||
4. | การศึกษาวินิจฉัยด้านการจัดการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิต และลดความสูญเสีย 7 ประการ กรณีศึกษาสายการผลิต LEVER TILE [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : คชพล สิริทรัพย์อุดม | ||
สารนิพนธ์ฉบับนี้ ผู้ศึกษาได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อประยุกต์ใช้ความรู้
การวินิจฉัยองค์กร (1) เพื่อสำรวจวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของปัญหาด้านการจัดด้านการผลิต (2)
เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพและความสูญเปล่าของกระบวนการผลิต (3) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
ของสายการผลิตให้สูงขึ้น (4) เพื่อลดความสูญเปล่าทั้ง 7 ประการ และต้นทุนในกระบวนการ
ผลิต โดยทำการศึกษากรณีตัวอย่างการจัดการผลิตของ บริษัท บุญส่งพรีซิชั่นซัพพลาย จำกัด
ในการผลิตชิ้นงาน Lever Tilt ซึ่งผู้ศึกษาได้ใช้หลักการวินิจฉัยองค์กรด้านการผลิต และทฤษฎี
การศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา รวมถึงการศึกษาวิเคราะห์และขจัดความสูญเสียทั้ง 7 ประการ
ในการวิเคราะห์ค้นหาปัญหาด้านการผลิต ซึ่งผลการศึกษาวินิจฉัยและวิเคราะห์ค้นหาปัญหา
พบว่า :
1. ในด้านการบริหารจัดการด้านการผลิตในส่วนงานด้านการวางแผนการผลิต, การ
ควบคุมการผลิต, การบริหารการใช้เครื่องจักรและการดูแลรักษา, การควบคุมคุณภาพที่ไม่มี
ประสิทธิภาพส่งผลกระทบต่อการส่งมอบชิ้นงานล่าช้าถึง 40.00%, มีอัตราชิ้นงานเสียถึง 9.67%
และมีชิ้นงานส่งคืนจากลูกค้าถึง 12.61% มีอัตราการเก็บวัสดุคงคลังรวมถึงชิ้นงานระหว่าง
กระบวนการผลิตและชิ้นงานสำเร็จสูงถึง 141.03% ในเดือนมกราคม และรวมถึงการมีโครงสร้าง
ต้นทุนที่สูงถึง 97.33% จากต้นทุนวัตถุดิบทางตรงและทางอ้อมถึง 73.32% ที่ส่งผลให้สามารถมี
อัตราส่วนการทำกำไรเพียง 2.67%
2. ในการควบคุมการผลิตที่ไม่มีประสิทธิภาพส่งผลให้มีประสิทธิภาพการผลิตอยู่ที่
50.10% หรือมีปริมาณผลการดำเนินการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 2,231 ชิ้นต่อวัน โดยมีการทำงานที่ไม่
จำเป็นต่อกระบวนการผลิตอยู่ถึง 17 ขั้นตอนการทำงาน หรือ 3.34 วินาที และมีความสัมพันธ์
การทำงานระหว่างคนและเครื่องจักรที่
Full Text : Download! |
||
5. | การประยุกต์ใช้เครื่องมือการจัดการการผลิตแบบโตโยต้า ในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตสปริงครัชมอเตอร์ไซค์ [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : จรูญ วงศ์วิวัฒน์ไชย | ||
การศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับนี7มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาการประยุกต์ใช้เครื่องมือ
การจัดการการผลิตแบบโตโยต้าในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตสปริงครัช
มอเตอร์ไซค์ ซึ่ง เป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น จากลูกค้า และสายการผลิตในกรณีศึกษานี้
เป็นสายการผลิตที้ทำกำไรให้กับโรงงานผู้ศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ ตารางการจับ
เวลามาตรฐาน, ตารางงานมาตรฐานผสม, แผนภาพงานมาตรฐาน และ Yamazumi Chart เพื่อ
ใช้ในการวิเคราะห์กระบวนการผลิต และเป็นแนวทางในการปรับปรุงเปรียบเทียบก่อนและหลัง
การประยุกต์ใช้เครื่องมือการจัดการการผลิตแบบโตโยต้า
ผลการศึกษา พบว่า การประยุกต์ใช้เครื่องมือการจัดการการผลิตแบบโตโยต้าในการ
เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตสปริงครัชมอเตอร์ไซค์ สามารถทำให้โรงงานของผู้ศึกษา
ส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ หลังการปรับปรุงทำให้ประสิทธิภาพ
การผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 267 และสามารถตัดกระบวนการทำงานได้ 2 กระบวนการ
จากการศึกษาจึงสรุปได้ว่า เครื่องมือการจัดการการผลิตแบบโตโยต้าเป็นเครื่องมือที่
มีประสิทธิภาพ สามารถนำ มาใช้ในวิเคราะห์กระบวนการผลิตเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ
การผลิตให้มากขึ้น เพื่อการมุ่งเน้นการลดต้นทุน และในที่สุดเป็นการสร้างความได้เปรียบใน
การแข่งขันให้กับธุรกิจ
Full Text : Download! |
||
6. | ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อหนังสือมือสองทางอินเทอร์เน็ต กรณีศึกษา ร้านหนังสือมือสองปาปีรัส [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชฎา กอดีวี | ||
การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อหนังสือมือสองทางอินเทอร์เน็ต : กรณีศึกษา
ร้านหนังสือมือสองปาปีรัส มีจุดประสงค์เพื่อต้องการศึกษาถึงปัจจัยด้านบุคคลที่มีผลต่อการ
สั่งซื้อหนังสือมือสองผ่านทางอินเทอร์เน็ต พฤติกรรมการของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อหนังสือมือ
สองผ่านทางอินเทอร์เน็ต ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการซื้อหนังสือมือสองผ่าน
ทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งปัญหาที่เกิดจากการสั่งซื้อหนังสือมือสองผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยใช้
แบบสอบถามสำหรับเก็บข้อมูลจากกลุ่มประชากรที่มีผลตอบกลับ 144 คน จากการศึกษาพบว่า
ผู้ซื้อหนังสือมือสองทางอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ยเท่ากับ 36-45 ปี,ทำงาน
เป็นพนักงานบริษัทเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ การศึกษาระดับปริญญาตรี รายได้เฉลี่ยตั้งแต่
25,000 บาทขึ้นไป อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กิจกรรมยามว่างที่ชอบทำ ได้แก่
การอ่านหนังสือ มีพฤติกรรมในการซื้อหนังสือมือสองดังนี้ ส่วนใหญ่ซื้อหนังสือมือสองนานๆครั้ง
นิยมซื้อตั้งแต่จันทร์-อาทิตย์ ช่วงเวลาที่นิยมซื้อตั้งแต่ 17:01-22:00 น. ใช้เวลาในการซื้อหนังสือ
60 นาที ค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือคิดเฉลี่ยเป็นเงิน 724.12 บาทต่อครั้ง เหตุผลในการซื้อ
หนังสือมือสองทางอินเทอร์เน็ต คือ มีราคาถูกกว่าหนังสือทั่วไป หนังสือที่นิยมซื้อมากที่สุดได้แก่
นวนิยายไทย ส่วนใหญ่เลือกซื้อหนังสือด้วยตัวเอง
ส่วนประสมทางการตลาด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย
การส่งเสริมการขาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญด้านผลิตภัณฑ์มากที่สุด ในหัวข้อย่อย
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญตามลำดับดังนี้(1) ด้านผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การให้รายละเอียด
ลักษณะสภาพหนังสืออย่างชัดเจน (2) ด้านราคา ได้แก่ การแจ้งสรุปราคาหนังสืออย่าง
Full Text : Download! |
||
7. | การศึกษาเปรียบเทียบการลงทุนในกิจการแฟรนไชส์ร้านอาหาร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชรินทร์ แสนสุข | ||
การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์เป็นแนวทางหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของ
ตนเองภายใต้ข้อจำกัดของเงินทุน สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์โอกาสการลงทุน
ในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารเชสเตอร์ กริลล์และแบล็ค แคนยอนในเชิงเปรียบเทียบ และ
ตัดสินใจเลือกลงทุนในแฟรนไชส์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดบนพื้นที่ของศูนย์การค้าเมกาบางนา
ดำเนินการศึกษาโครงสร้างต้นทุนดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารจากงบการเงิน 3 ปีย้อนหลัง
ตั้งแต่ปี 2552 ถึงปี 2554 ของแฟรนไชส์ซี 10 ราย แบ่งเป็นเชสเตอร์ กริลล์ และแบล็ค แคน
ยอนอย่างละ 5 สาขาซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และศึกษาความเป็นไปได้ทางด้าน
การตลาด ด้านเทคนิคและการจัดการ และด้านการเงิน
ผลการศึกษาพบว่า ศูนย์การค้าเมกาบางนา เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก มีลูกค้า
เป้าหมายไม่ต่ำกว่า 40 ล้านคนต่อปีและมีการแข่งขันสูง ในขณะที่ระบบการจัดการและการ
สนับสนุนด้านเทคนิคของแฟรนไชส์เชสเตอร์ กริลล์ และ แบล็ค แคนยอน มีความน่าเชื่อถือจาก
การได้รับรางวัลมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ยอดเยี่ยมประจำปี 2554 และ ปี 2553 ตามลำดับ
ซึ่งเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ การวิเคราะห์งบการเงินของแฟรนไชส์ซีพบว่า จำนวนเงินลงทุน
เริ่มต้นเปรียบเทียบระหว่างแฟรนไชส์เชสเตอร์ กริลล์และแฟรนไชส์แบล็ค แคนยอนอยู่ที่
9,663,501 บาท และ 6,442,722 บาท โดยมีระยะเวลาคืนทุน 1 ปี 10 เดือน 6 วัน และ 1 ปี 4
เดือน 26 วัน มูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 22,609,349 บาทและ 23,908,370 บาท และมี
ผลตอบแทนต่อต้นทุนและผลตอบแทนภายในโครงการเท่ากับร้อยละ 1.04 และร้อยละ 61.43
เปรียบเทียบกับร้อยละ 1.21 และร้อยละ 83.73 ตามลำดับ เนื่องจากเงินลงทุนเริ่มต้นที่ไม่
เท่ากันและเพื่อให้สามารถจัดลำดับความน่าสนใจของการลงทุนจึงดำเนินการเ
Full Text : Download! |
||
8. | ภาวะผู้นำของผู้บริหารชาวญี่ปุ่นที่ส่งผลต่อ ความพึงพอใจของพนักงานชาวไทยในบริษัทญี่ปุ่น กรณีศึกษา บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในนิคม อุตสาหกรรมอมตะนคร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ฐิตินันท์ รัตนรังษิวัฒน์ | ||
การศึกษาครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาภาวะผู้นำของผู้บริหารชาวญี่ปุ่น ที่มีผล
ต่อความพึงพอใจต่อพนักงานชาวไทยในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ พนักงานชาวไทยที่ทำงานร่วมกับผู้บริหารชาวญี่ปุ่นใน
บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งทีตั้งอยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี จำนวนทั้ง สิ้น
615 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้สถิติต่างๆ ได้แก่
ร้อยละ ความถี่ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแตกต่างโดยการทดสอบค่าที
การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียวและสถิติสัมประสิทธิสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน
ผลการศึกษา พบว่า พนักงานที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีระดับ
การศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป มีประสบการณ์ในการทำงานเป็นเวลาตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป มี
ลักษณะความสัมพันธ์ในการทำงานกับผู้บริหารชาวญี่ปุ่นในลักษณะรับคำสั่ง ผ่านหัวหน้า
ชาวไทย โดยพนักงานมีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นำของผู้บริหารชาวญี่ปุ่นอยู่ในระดับปานกลาง
ความพึงพอใจพนักงานชาวไทยที่มีต่อผู้บริหารชาวญี่ปุ่นโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ลักษณะส่วนบุคคลของพนักงานชาวไทยที่
ประกอบด้วย เพศ และลักษณะความสัมพันธ์ในการทำงานกับผู้บริหารชาวญี่ปุ่น มี
ความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในภาวะผู้นำของผู้บริหารชาวญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม
อมตะนคร และภาวะผู้นำของผู้บริหารชาวญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยภาวะผู้นำแบบมุ่งงานและ
ภาวะผู้นำแบบมุ่งความสัมพันธ์ มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจต่อหัวหน้างานของพนักงาน
ชาวไทยโดยความพึงพอใจของพนักงานจะอยู่ในระดับสูงมากเมื่อผู้บริหารมีภาวะผู้นำแบบมุ่ง
ความสัมพันธ์
Full Text : Download! |
||
9. | พฤติกรรมการตัดสินใจซื้อเสื้อยืดคอกลมสาเร็จรูป ของกลุ่มนักศึกษาปริญญาตรี สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ณัฎฐา สมบูรณ์ | ||
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อเสื้อยืดคอกลมสำเร็จรูปกลุ่มนักศึกษาปริญญาตรี สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น จำนวน 360 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ในการสำรวจข้อมูล สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ ค่าทดสอบไค-สแควร์ ตัวแปรอิสระ ได้แก่ ลักษณะทางประชากรศาสตร์ ประกอบด้วย เพศ รายรับต่อเดือน และแหล่งที่มาของรายได้ ความสำคัญส่วนประสมทางการตลาดการเลือกซื้อเสื้อยืด คอกลมสำเร็จรูป ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา การจัดแสดงสินค้า การส่งเสริมการตลาด และ ตัวแปรตาม ได้แก่ พฤติกรรมการซื้อเสื้อยืดคอกลมสำเร็จรูปของกลุ่มนักศึกษาปริญญาตรี สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ประกอบด้วย ลักษณะรูปแบบของผลิตภัณฑ์ ชนิดของผ้า โทนสี ความถี่ ปริมาณ และโอกาสในการซื้อเสื้อยืดคอกลมผ้าสำเร็จรูป โดยใช้โปรแกรม SPSS ในการประมวลผล
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง รายรับนักศึกษาต่อเดือน ส่วนใหญ่มีระดับรายรับต่ำกว่า 10,000 บาท ส่วนแหล่งที่มาของรายได้จากครอบครัว ความสำคัญต่อส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลอย่างมากต่อการเลือกซื้อเสื้อยืดคอกลมสำเร็จรูป ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ราคา การจัดแสดงสินค้า และการส่งเสริมการตลาด พฤติกรรมการซื้อเสื้อยืดคอกลมสำเร็จรูปด้านรูปแบบการเย็บคอเสื้อ คือ คอกว้าง การเย็บแขนเสื้อ คือ แขนสั้น ชนิดของผ้า คือ ผ้าฝ้าย (100% Cotton) โทนสีของผ้า คือ โทนสีเทา-ดำ ค่าใช้จ่ายในการซื้อ คือ ไม่เกิน 300 บาทต่อครั้ง ความถี่ในการซื้อ คือ ไม่เกิน 3 เดือน/ครั้ง ปริมาณในการซื้อ คือ 3-6 ตัว สถานที่ในการเลือกซื้อ คือ ห้างสรรพสินค้า โอกาสในการซื้อ คือเมื่อ มีรูปแบบใหม่ๆ ออกสู่ตลาดมากที่สุด ผลการทดสอบสมมติฐานที่ระดับนัยสำคัญ .05 พบว่า
1) เพศของนักศึกษาที่ต่างกันจะเลือกรูปแบบแขนเสื้อ
Full Text : Download! |
||
10. | ความสัมพันธ์ระหว่างความไว้วางใจในผู้บังคับบัญชา ความไว้วางใจในองค์การกับความคิดสร้างสรรค์บุคคล : กรณีศึกษา บริษัทผลิตกุ้งเพื่อการส่งออกแห่งหนึ่งในประเทศไทย [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ณัฐจรินทร์ วงศาโรจน์ | ||
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1 ศึกษาความไว้วางใจในผู้บังคับบัญชา ความไว้วางใจในองค์กร และความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานบริษัทผลิตกุ้งเพื่อการส่งออกแห่งหนึ่งในประเทศไทย 2 ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความไว้วางใจในผู้บังคับบัญชา ความไว้วางในองค์การที่มีผลความคิดสร้างสรรค์ของบริษัทผลิตกุ้งเพื่อการส่งออกแห่งหนึ่งในประเทศไทย การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงปริมาณโดยการสำรวจประชากรจำนวน 142 คน จากแบบประเมินที่เป็นเครื่องมือการเก็บรวบรวมข้อมูลในการศึกษานี้ ได้ถูกตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือแล้วว่ามีความเที่ียงตรงและความเชื่อถือได้ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณาและวิเคราะห์เชิงอนุมาน
ผลการศึกษา พบว่า 1 คุณสมบัติส่วนบุคคลแตกต่างกันมีความคิดสร้างสรรค์แตกต่างกันคือ อายุ การศึกษา หน่วยปฏิบัติงาน อัตราเงินเดือน และตำแหน่งงาน ส่วนคุณสมบัติส่วนบุุคคลแตกต่างกันมีความคิดสร้างสรรค์ไม่แตกต่างกันคือ เพศ ประสบการณ์การทำงานกับบริษัทนี้ ประสบการณ์การทำงานทั้งหมด และสถานภาพสมรส 2 ความไว้วางใจในผู้บังคับบัญชา ความไว้วางใจในองค์กรการกับความสร้างสรรค์มีความสัมพันธ์เชิงบวกระดับปานกลางระหว่างกัน
Full Text : Download! |
||
Center of Academic Resource
Institute of Technology 1771/1, E Building, Fl. 2,
Pattanakarn Rd, Suan Luang, Bangkok, 10250