fieldjournalid
![]() | บทความวิจัย (MIM) 2016 |
1. | กรณีศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในงานและการอยู่ต่อในองค์กรของวิศวกรฝ่ายผลิต ของบริษัท ตัวอย่าง จำกัด [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : อลิส ชูลิขิต | ||
ปัจจุบันตลาดแรงงานมีการแข่งขันกันสูงมาก องค์กรจำเป็นต้อง
รักษาพนักงานมีฝีมือซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ พนักงานวิศวกร ผู้ศึกษาจึงได้ทำการ
ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาเชิงปริมาณ (Quantitative
Research) เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการอยู่ต่อในองค์กรและระดับความ
พึงพอใจต่อแต่ละปัจจัยของที่ทำงานปัจจุบันของพนักงานวิศวกร จาก
การศึกษาพบว่า สิ่งที่มีผลต่อตัดสินใจอยู่ต่อในองค์กรของพนักงานวิศวกร
ของบริษัทที่ได้ทำการศึกษามากที่สุด คือ ค่าตอบแทน การมีสวัสดิการ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การจ่ายโบนัส ซึ่งจัดอยู่ในหมวดค่าตอบแทน
สวัสดิการและผลประโยชน์อื่นๆ ปัจจัยที่พนักงานวิศวกรมีระดับความพึง
พอใจที่สุด คือ การจ่ายโบนัส การมีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การมี
กองทุนสำหรับกู้ยืม ส่วนค่าตอบแทน พนักงานมีระดับความพึงพอใจปาน
กลาง และหมวดคุณลักษณะของงาน เนื้องาน โอกาสในการก้าวหน้า
พนักงานมีความพึงพอใจระดับปานกลางผลการสำ รวจโดยภาพรวม
พนักงานมีความพึงพอใจมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พนักงานมีความพึงพอใจ
ในงานซึ่งเกิดจากการตอบสนองความต้องการด้วยปัจจัยอนามัย แต่ยังขาด
ปัจจัยจูงใจที่จะทำให้พนักงานเกิดความทุ่มเทในงาน องค์กรจึงควรคิดกล
ยุทธ์ในการปรับปรุงตัวงานและการสร้างโอกาสในการก้าวหน้าในงานให้
พนักงาน
Full Text : Download! |
||
2. | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการรักษาคนเก่งในองค์กร [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : อำพร พันธ์ชู | ||
การศึกษาเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาปัจจัยและวิเคราะห์
ความสำคัญของปัจจัยในการรักษาคนเก่งขององค์กร ตลอดจนเพื่อนำเสนอ
แนวทางในการรักษาคนเก่งขององค์กร การศึกษาใช้แบบสอบถามเพื่อ โดย
เก็บข้อมูลกับประชากรกลุ่มเป้าหมาย คือ คนเก่งซึ่งทำหน้าที่หัวหน้า
โครงการในองค์กรกรณีศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 50 คน การวิเคราะห์ใช้สถิติ เชิง
พรรณนา ผลของการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลมากต่อการคงอยู่ของคน
เก่งในองค์กรประกอบไปด้วย 1. เสถียรภาพทางการเงินของบริษัท (2.66) 2.
สภาพแวดล้อมในการทำงานและบรรยากาศทั่วไปสะดวกและปลอดภัย
(2.58) 3. บริษัทไม่มีนโยบายเลิกจ้างพนักงาน (2.58) 4.การปรับเงินเดือนที่
เพิ่มขึ้นในแต่ละปี (2.54) 5.ผลตอบแทน เงินเดือน (2.52) 6. เ งิ น โ บ นั ส
(2.42) 7. อิสระในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (2.36) 8. ความสะดวกใน
การเดินทางมาทำงาน (2.36) ปัจจัยที่มีอิทธิพลมาก 3 อันดับแรกนั้น เป็น
ปัจจัยที่เกี่ยวกับองค์กร และเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เนื่องจากความต้อการ
ของคนเก่งจะไม่ได้มองแค่ผลตอบแทนในปัจจุบัน แต่ให้ความสำคัญกับความ
มั่นคงและผลตอบแทนที่จะได้ในอนาคตด้วย
Full Text : Download! |
||
3. | การศึกษาการออกแบบไฟหน้าและไฟท้ายรถยนต์โดยใช้หลักการ QFD กรณีศึกษาโรงงานผลิตไฟรถยนต์ [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : อภิศักดิ์ นาคถนอม | ||
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายต่อไฟหน้าและไฟท้ายรถยนต์ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ และ นาเสนอข้อเสนอแนะไปประยุกต์ใช้ออกแบบรถรุ่นใหม่ในอนาคตได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยกลุ่มตัวอย่างในการศึกษา คือ ตัวแทนลูกค้าในกรุงเทพฯ จานวนรวม 400 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบสอบถาม และนาข้อมูลค่าความสาคัญแต่ละด้านมาวิเคราะห์ตามหลักการ QFD โดยนาความต้องการของลูกค้ามาแปลงเป็นข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ ใน 4 Phases ของบ้านคุณภาพ (House Of Quality : HOQ) รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ผล จากการศึกษาพบว่า ไฟหน้าและไฟท้ายรถยนต์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ขนาดเล็กของลูกค้าในเขตกรุงเทพมหานคร โดยให้ความสาคัญกับรูปร่างภายนอกสูงสุดต้องการให้ไฟหน้าและไฟท้ายรถยนต์มีลักษณะแบบพลวัต (Dynamic) มีสีของโครงสร้างภายในเป็นสีควัน หรือ ดา มีไฟแอลอีดีแบบเส้น (Light Guide) เป็นต้น ส่วนด้านคุณภาพและปัญหาการใช้งาน ไม่ต้องการให้มีน้าหรือไอน้าเข้าไปในโคมไฟ รวมทั้ง ไม่มีการหลุดลอกของผิวหน้าเลนส์หรือมีสีของเลนส์เปลี่ยนไป ด้านสมรรถนะต้องการให้มีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่า 3 ปีของการรับประกัน นอกจากนี้ ยังต้องการให้ไฟหน้าและไฟท้ายรถยนต์ทางานเปิดปิดอัตโนมัติอีกด้วย
Full Text : Download! |
||
4. | การศึกษาระดับความคิดเห็นของพนักงานต่อระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน กรณีศึกษา บริษัทด้านไอที [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชีวารัตน์ สกุลศักดิ์ | ||
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นของ
พนักงานต่อระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน กรณีศึกษา บริษัทด้านไอที
ประชากรในการศึกษาในครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานทั้งหมด จำนวน 560 คน
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ ใช้แบบสอบถาม การวิเคราะห์เกี่ยวกับระดับ
ความคิดเห็นของพนักงานต่อระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานจำนวน 10
ประเด็น พบว่า พนักงานส่วนใหญ่มีระดับความคิดเห็น ไม่เห็นด้วย จำนวน
2 ประเด็น ด้านการตัดสินใจเกี่ยวการเลื่อนขั้นตำแหน่งของพนักงาน และ
ด้านระบบการให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) และมีระดับความคิดเห็น ไม่
แน่ใจ จำนวน 7 ประเด็น คือ ด้านความเข้าใจในระบบการประเมินผล ด้าน
การพัฒนาบุคลากร ด้านการเชื่อมเป้าหมายขององค์กร หน่วยงานกับ
เป้าหมายพนักงาน ด้านพันธะผูกพันต่อเป้าหมายบริษัท ด้านเกณฑ์การให้
รางวัล ด้านการตัดสินใจขึ้นเงินเดือน และด้านความเข้าใจตัวชี้วัด และมี
ระดับความคิดเห็น เห็นด้วย จำนวน 1 ประเด็น คือ ด้านผลงานไม่ได้ระดับ
มาตรฐาน ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติและทดสอบสมมุติฐาน พบว่า
หน่วยธุรกิจแตกต่างกัน รวมทั้ง ประสบการณ์ทำงาน ระดับการศึกษา และ
ระดับหน้าที่ต่างกัน (ฝ่ายจัดการและพนักงานทั่วไป) มีความคิดเห็นต่อระบบ
การประเมินผลปฏิบัติงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
Full Text : Download! |
||
5. | การศึกษาปัจจัยในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ Diamond and Cubic Boron Nitride (CBN) Wheels กรณีศึกษา บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : ชลลดา ตั้งในไตรสรณะ | ||
วัตถุประสงค์การศึกษาเพื่อศึกษาปัจจัยในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์
Diamond and Cubic Boron Nitride (CBN) “heels กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็น
ลูกค้าของบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Diamond and Cubic Boron Nitride
(CBN) Wheels จำนวน 86 ราย โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการ
เก็บรวบรวมข้อมูลและนำมาวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป
SPSS (Statistical Package for the Social Sciences) ประกอบกับการ
สัมภาษณ์เชิงลึก ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้า
ประเภท Diamond and Cubic Boron Nitride (CBN) Wheels สูงสุดคือ
ปัจจัยด้านการจัดซื้อและส่งมอบ (mean= 4.73) รองลงมาคือปัจจัยด้าน
ตัวแทนจำหน่ายและพนักงานขาย (mean= 4.22) ถัดมาคือปัจจัยด้าน
คุณภาพ (mean= 4.16) ปัจจัยด้านการเงิน (mean= 4.14) ปัจจัยด้านราคา
(mean= 3.70) และปัจจัยด้านการส่งเสริมการขายและบริการหลังการขาย
(mean= 3.26) ตามลำดับ ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยพื้นฐานของ
ลูกค้าด้านขนาดของกิจการที่แตกต่างกัน มีปัจจัยในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์
ด้านการเงินแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปัจจัยพื้นฐานของลูกค้าในด้าน
อื่นๆ เช่นประเภทของกิจการและสัญชาติมีปัจจัยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไม่
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
Full Text : Download! |
||
6. | กรณีศึกษาการวางแผนการผลิตโดยการกาหนดปริมาณสินค้าสาเร็จรูป คงคลังที่เหมาะสมสาหรับโรงงานประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : กรรณิการ์ ชาติชวนชม | ||
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการควบคุมสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ารวมทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มความสามารถในการทากาไรให้กับบริษัทกรณีศึกษา ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยได้ทาการกาหนดวิธีการในการกาหนดค่าเป้าหมายการเก็บสินค้าคงคลังในแต่ละรุ่นของผลิตภัณฑ์เป็นจานวนวัน เพื่อนามาหาสาเหตุในการจัดเก็บสินค้าคงคลัง โดยแบ่งสินค้าคงคลังสาเร็จรูปออกเป็น 3 ประเภท คือ (1) สินค้าที่เก็บตามรอบเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีความแน่นอนและเวลานาในการสั่งคงที่และทราบล่วงหน้า (Cycle Stock), (2) สินค้าที่เก็บไว้เพื่อรองรับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก เช่น การเรียกงานที่แกว่งของลูกค้า (Buffer Stock) และ (3) สินค้าที่เก็บไว้เพื่อรองรับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายใน เช่น การขาดแคลนวัตถุดิบ, เครื่องจักรเสีย ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการของทางโรงงานเอง (Safety Stock) เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการต่างๆ ภายในโรงงานเพื่อลดเวลานาให้สั้นลง และวิเคราะห์ปัญหาจากส่วนแกว่งของยอดผลิตในแต่วัน จากการปรับปรุงทาให้ได้วิธีการในการกาหนดค่าเป้าหมายที่เหมาะสม และสามารถลดจานวนสินค้าคงคลังสาเร็จรูปในแต่ละวันได้ จากการปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ภายในโรงงาน เพื่อลด Cycle Stock และจากการหาสาเหตุและแนวทางการแก้ปัญหาจากข้อมูลการผลิตและปัญหาการผลิตงานในแต่วัน เพื่อลดจานวนสินค้าคงคลังที่เกิดจากปัจจัยภายใน ซึ่งเป็นการลด Safety Stock รวมทั้งยังได้ค่า Buffer Stock ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อรองรับการเรียกงานที่แกว่งของลูกค้า
Full Text : Download! |
||
7. | การประยุกต์วิศวกรรมคุณค่าในการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : เกษมศักดิ์ สุวรรณศรี | ||
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ก่อนการปรับปรุง Jig และเปลี่ยนกระบวนการเพื่อรองรับความต้องการใหม่ของลูกค้าและปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุนและแรงงานของ บริษัท ไทย ออโต้ คอนเวอร์ชั่น จากัด โดยนาเทคนิควิศวกรรมคุณค่ามาวิเคราะห์หน้าที่หลักของ Jig ในการประกอบอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงโดยเป็นรถยนต์ตามแผนการผลิตของบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงกระบวนการจากกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม กลุ่มละ 40 คัน ผลการศึกษา พบว่า ในกระบวนการเจาะ RR Bumper เป็นส่วนที่ใช้เวลาและกาลังคนเป็นจานวนมาก ในการลดต้นทุนและกาลังคนจาเป็นต้องพัฒนา Jig ใหม่ และเปลี่ยนแปลงกระบวนการติดตั้งใหม่ การทดสอบการใช้งาน Jig ในขบวนการผลิต พบว่า การติดตั้งมีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม วิศวกรรมคุณค่าช่วยให้สามารถติดตั้งชิ้นส่วนให้ลูกค้าจาก 7 ชิ้น เป็น 15 ชิ้น ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า และลดกาลังคนจาก 7 คน เหลือ 6 คน เวลาในการใช้ Jig จับยึดเพื่อเจาะรูลดลงจาก 2 นาที เหลือ 17 วินาที ทาให้ต้นทุนลดลง การติดตั้งชิ้นส่วนได้ตามความต้องการของลูกค้า ทาให้รายได้จากการติดตั้งชิ้นงานเพิ่มขึ้น เป็นเงิน 9,775,000 บาท
Full Text : Download! |
||
8. | การวิเคราะห์ต้นทุนบนฐานกิจกรรมและเกณฑ์เวลาเพื่อการปรับปรุงกระบวนการผลิต [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : กรแก้ว สวนศิลป์พงศ์ | ||
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการผลิตและต้นทุน
ของการผลิตเก้าอี้ รหัส 9201 และดำเนินการค้นหาจุดปรับปรุงโดยใช้
การศึกษาการทำ งาน การคิดต้นทุนบนฐานกิจกรรมและเกณฑ์เวลา
(TDABC) แผนผังสายธารคุณค่า และการจัดวางผังของกระบวนการผลิต
เก้าอี้ รหัส 9201 ใหม่เพื่อลดต้นทุนที่เกิดจากความสูญเปล่าภายใน
กระบวนการผลิตอุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผลการศึกษาพบว่า
กระบวนการผลิตเก้าอี้รหัส 9201 ประกอบด้วย 10 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมใน
กระบวนการตัด เจาะ ดัด เชื่อม เจียรล้าง ตัดผ้า เย็บผ้า ใส่ผ้า และ
กระบวนการบรรจุกล่อง มีเวลารวมของกระบวนการ เท่ากับ 1,548.08 นาที
ต้นทุนของการผลิตเก้าอี้ 10 ตัว เท่ากับ 1,629.87 บาท ประกอบด้วยค่า
วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง และค่าโสหุ้ย การวิเคราะห์แผนผังสาย
ธารแห่งคุณค่าพบว่ามีกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่าและเป็นความสูญเปล่า
จึงปรับแก้ไขโดยจัดวางเครื่องจักรใหม่เพื่อให้มีระยะในการเคลื่อนที่ของ
วัตถุดิบน้อยลง และกำหนดเส้นทางเดินของวัตถุดิบเพื่อไม่ให้เกิดความสูญ
เปล่าจากการเคลื่อนที่ ทำให้เวลารวมของกระบวนการหลังการปรับปรุง
ลดลงเหลือ 1,348.82 นาที ลดลงคิดเป็นร้อยละ 12.87 คิดเป็นต้นทุนค่าแรง
ที่ลดลงเป็นเงิน 234.29 บาทต่อวัน หรือร้อยละ 15.13 ต้นทุนบนฐาน
กิจกรรมและเกณฑ์เวลาช่วยให้เห็นกิจกรรมในกระบวนการผลิตที่ทำให้เกิด
ต้นทุนสูง ทำให้สามารถดำเนินการกำจัดความสูญเปล่าได้อย่างรวดเร็ว
Full Text : Download! |
||
9. | A STUDY OF PROCUREMENT EVALUATION A CASE STUDY OF PHARMACEUTICAL COMPANY [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : NIjarat Wichianprasit | ||
The objective of this study is to find the materials ordering
method, which provides low risk of materials shortage, optimum
inventory level, less complication logic with minimize level of human
intervention in the ERP system. The case study company has already
started ERP implementation but the full function of production module
has not been obtained. The actual production scheduling was
performed outside the system. The evaluation was conducted on
important export product groups. Six-month period was selected to
simulate based on customer ordering plan of year 2014. The four
material ordering patterns were selected for evaluation. The study
found that no shortage of raw materials in the 2nd and the 4th method,
but the 1st method and the 3rd method were found shortage. The
averages of six-month inventory values of the 1st method to the 4th
method were 13,090,000 Baht, 34663,333 Baht, 20,056,667 Baht, and
23,220,000 Baht, respectively. The most preferable method was the
4th method. The actual production scheduling was an important tool
for material ordering. A safety stock has an important role to prevent
the shortage of materials. However safety stock should be carefully
monitored to control the level of inventory. For further study, the
unstable of demand and supply should be considered.
Keywords : Enterprise Resources Planning (ERP), Optimum Inventory,
Safety Stock.
Full Text : Download! |
||
10. | การวิเคราะห์ศักยภาพทางการเงินของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง กรณีศึกษา [แสดงบทคัดย่อ] [ซ่อนบทคัดย่อ] | |
ผู้แต่ง : นิรุตติ์ บุญเปี่ยม | ||
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทาการศึกษาฐานะการเงิน ด้วยการวิเคราะห์สภาพคล่อง ความสามารถในการทากาไร ประสิทธิภาพในการดาเนินงาน ความสามารถในการก่อหนี้ ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การศึกษาใช้การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ ซึ่งมาจากรายงานประจาปี 2554 ถึง ปี 2556 มาวิเคราะห์เชิงปริมาณโดยใช้เครื่องมือ 3 ชนิด คือ 1. อัตราส่วนทางการเงิน 2. การวิเคราะห์แนวโน้ม 3. การวิเคราะห์ฐานรวม ผลการศึกษาบริษัทกรณีศึกษาทุกบริษัทมีการขยายตัวของโครงการที่ดิน งานระหว่างก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับยอดขายที่เกิดขึ้นในอนาคต ทุกบริษัทที่นามาศึกษาจะรักษาสภาพคล่องในการดาเนินธุรกิจให้มีสภาพคล่องที่สูง เงินลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากการก่อหนี้สินมากกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นหรือมีแนวโน้มใช้แหล่งเงินทุนจากการก่อหนี้เพิ่มขึ้น ทาให้ภาระต้นทุนทางการเงินแตกต่างกันส่งผลถึงกาไรสุทธิประจางวด บริษัทที่มีต้นทุนทางการเงินต่าจะมีกาไรสุทธิที่สูงกว่าบริษัทที่ต้นทุนทางการเงินสูง บริษัทกรณีศึกษาจะต้องหมุนเวียนสินค้าให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับต่า เพื่อให้ได้กาไรเพียงพอกับการชาระหนี้และผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นสูงขึ้น
Full Text : Download! |
||
Center of Academic Resource
Institute of Technology 1771/1, E Building, Fl. 2,
Pattanakarn Rd, Suan Luang, Bangkok, 10250